Politics

สรุปผลสอบจดหมาย ‘อานนท์’ ชี้ ‘ข้อมูล-ไทม์ไลน์’ ตรงกัน แต่เข้าใจคนละเรื่อง

โฆษกกระทรวงยุติธรรม  แจงเหตุ จดหมาย “อานนท์ นำภา” พบข้อมูล และไทม์ไลน์ ตรงกับเจ้าหน้าที่ แต่ตีความเจตนาผิด เผยจดหมายที่ใช้เขียนคือด้านหลังใบคำฟ้อง แจ้งความ ปอท.เพื่อเอาผิดแล้ว

วันนี้ (26 มี.ค.) นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายวิชาการ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ แถลงความคืบหน้าการดำเนินงาน ของคณะกรรมการประมวลข้อเท็จจริง ในการดำเนินงานของกรมราชทัณฑ์

นายวัลลภ กล่าวว่า หลังจากตั้งคณะกรรมการข้อเท็จจริง มีการตรวจสอบประเด็นเรื่องจดหมายของนายอานนท์ นำภา เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีการโพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งนายอานนท์เกรงว่าจะได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต

anonmmmm

จากการตรวจสอบพบว่าช่วงเวลาไทม์ไลน์มีความสอดคล้องกัน แต่มีการอธิบายความที่แตกต่างกัน โดยเจ้าหน้าที่ปฎิบัติตามขั้นตอนการตรวจเชื้อโควิด-19 ภายในเรือนจำ แต่ผู้ต้องขังปฏิเสธการตรวจ จึงทำให้ต้องมีการแยกขังตามมาตรการ

นอกจากนี้ ยังพบว่า ข้อมูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีข้อเท็จจริงที่สอดคล้องกัน ในเรื่องของเวลา จำนวนของเจ้าหน้าที่ ที่เข้าไปตรวจสอบ วิธีการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ โดยพบว่า เข้าไปตรวจสอบรวม 4 ครั้ง มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่การเข้าไปขอตรวจในครั้งที่สอง และมีการพกกระบอง หรือนกหวีด ตามขั้นตอน ของกรมราชทัณฑ์ในการควบคุมดูแล และย้ายผู้ต้องขัง

นายวัลลภ กล่าวว่า ส่วนการตรวจสอบจดหมาย ซึ่งมีลายเส้นบรรทัด จากการสืบเสาะของคณะกรรมการพบว่า จดหมายดังกล่าวคือ ด้านหลังของเอกสารคำร้องขอไต่สวน หรือที่เรียกกันว่า ใบคำฟ้อง ซึ่งผู้ต้องขังจะมีติดตัวอยู่ หรืออาจได้รับจากทนายที่ศาล ไม่ได้เป็นหนังสือ หรือกระดาษ ของทางเรือนจำ

อีกทั้งเจ้าตัวยังเป็นทนายความ ซึ่งอาจมีการพกพาเอกสารดังกล่าวเข้ามาตรวจสอบ ในการต่อสู้คดีได้ จึงคาดว่า จะขอมาตอนขึ้นศาล ก่อนเขียนส่งให้บุคคลอื่น ไปโพสต์ แต่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง

“ขอยืนยันว่าภายในเรือนจำ ไม่มีกระดาษลักษณะนี้ ส่วนจะเป็นบุคคลใด ที่นำข้อมูลดังกล่าวไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ของทางคณะกรรมการตรวจสอบ และเนื่องจากเรื่องดังกล่าว ทำให้เกิดความเสียหายทางกองกฎหมาย กรมราชทัณฑ์ได้ไปแจ้งความ กับกรมบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือ ปอท. เพื่อสืบหาผู้กระทำความผิด โดยในวันที่ 29 มีนาคมนี้ ศาลได้นัดไต่สวนในคดีดังกล่าว ซึ่งทราบว่า เมื่อการไต่สวนเสร็จสิ้นแล้ว จะมีคำสั่งในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน” นายวัลลภ กล่าว

ส่วนการเยี่ยมญาติปกตินั้น สามารถเยี่ยมได้ทั่วประเทศ ยกเว้น 5 จังหวัดกลุ่มเสี่ยงคือกรุงเทพฯ, นนทบุรี , สมุทรปราการ , สมุทรสาคร และ ปทุมธานี ซึ่งจะต้องจองคิวล่วงหน้า เยี่ยมญาติผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ ทั้งผู้ต้องขังคดีการเมือง หรือคดีอื่น ๆ สามารถทำได้ เพื่อลดปัญหาเรื่องการถูกทำร้ายร่างกาย และอาการเครียด ของผู้ต้องขังเอง โดยเข้าพบเดือนละ 1 ครั้ง

159270952 5201327419908612 2209236558051804446 o

“รุ้ง-ฟ้า” ไม่ได้อดข้าว เป็นเพื่อน “เพนกวิน”

สำหรับกรณีที่ เพจศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์กรณีนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ“รุ้ง” เตรียมอดอาหาร เป็นเพื่อนนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” นั้น จากการตรวจสอบพบว่า นางสาวปนัสยา ยังทานอาหารปกติ ไม่ได้มีการอดอาหารแต่อย่างใด และทุกวันเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จะคอยติดตาม ดูแลสุขภาพผู้ต้องขังทุกรายอยู่แล้ว

ส่วนการอดอาหารของนายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือ ฟ้า แกนนำคณะราษฎรมูเตลู ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขัง อยู่ที่เรือนจำอำเภอธัญบุรี นั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รับแจ้งจากนายพรหมศรว่า ต้องการอดอาหารแต่อย่างใด เป็นเพียงการงดอาหารมื้อเย็น ซึ่งเจ้าตัวแจ้งว่า ขณะอยู่ภายนอกเรือนจำ ก็งดอาหารมื้อเย็นอยู่แล้ว ส่วนอาหารมื้ออื่น ๆ ยังคงรับประทานเป็นปกติ พร้อมรับประทานขนม และเครื่องดื่ม ที่ทางเรือนจำจัดเพิ่ม และญาติได้ทำการสั่งซื้อไว้

ด้านบาดแผลจากการประสบอุบัติเหตุ ก่อนเข้าเรือนจำ ได้ทำการรักษาจนหายดีแล้ว แต่ในอนาคตหากผู้ต้องขังรายดังกล่าว มีความประสงค์จะอด หรือปฏิเสธที่จะรับประทานอาหาร ทางเจ้าหน้าที่ก็พร้อมให้การดูแลตามขั้นตอนอยู่ตลอดเวลา เพราะถือเป็นสิทธิของผู้ต้องขัง ที่สามารถกระทำได้ ภายใต้กรอบของกฎหมาย โดยต้องไม่เป็นอันตรายต่อตัวเอง และผู้อื่น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

 

Avatar photo