Politics

แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โพสต์เตือนหากพวกท่านแตะต้อง เพื่อนของเราแม้แต่ปลายเล็บ

เพจเฟซบุ๊ก  แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม – United Front of Thammasat and Demonstration โพสต์ข้อความระบุว่า สืบเนื่องจากการที่มีจดหมายคำร้องของ ทนายอานนท์ นำภา หนึ่งในผู้ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำออกมา โดยมีเนื้อความกล่าวถึง การพยายามนำตัว ไมค์ ไผ่ และอานนท์ ออกไปจากห้องขังยามวิกาลอย่างไม่ชอบมาพากลหลายต่อหลายครั้ง

โดยอานนท์ ยังเขียนไว้ในจดหมายอีกด้วยว่า “เกรงจะเสียชีวิตในเรือนจำเหมือนหมอหยองและคนอื่นอื่น ผมไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเกรงอันตราย ได้โปรดช่วยชีวิตพวกเราด้วย”

จากการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ กรมราชทัณฑ์ต้องให้คำตอบ และมีส่วนรับผิดชอบโดยตรงในเรื่องนี้ ประชาชนจับจ้องพวกท่านอยู่ และหากพวกท่านแตะต้องเพื่อนของเราแม้แต่ปลายเล็บ

มึง! เจอ! กู!

แนวร่วมธรรศาสตร์

นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน แกนนำคณะราษฎร โพสต์จดหมายผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 21.30 น. ได้มีเจ้าหน้าที่เรือนจำพยายามนำตัวไผ่และไมค์ไปควบคุมนอกแดน พวกเราไม่ยอมเพราะเป็นเวลาวิกาล จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กลับออกไปจากห้องขัง แล้วกลับมามากกว่าเดิมพร้อมกระบอง เวลา 23.45 น., 00.15 น. และ 02.30 น. โดยสองครั้งหลังเจ้าหน้าที่มาพร้อมเจ้าหน้าที่อีกชุดสีน้ำเงินเข้มแต่ไม่ติดป้ายชื่อ แล้วแจ้งว่าจะพาทั้งหมดไปตรวจโควิด พวกเราไม่ยอมเพราะผิดวิสัยที่จะนำผู้ต้องขังออกนอกแดนในเวลาหลังเที่ยงคืน

ภายใต้ข่าวลือว่าจะมีการส่งคนเข้าไปทำร้ายหมายเอาชีวิตพวกเราในเรือนจำ และเกรงจะเสียชีวิตในเรือนจำเหมือนคนอื่นๆ ผมไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะเกรงอันตราย ได้โปรดช่วยชีวิตพวกเราด้วย

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน และแกนนำกลุ่มราษฎร ที่ถูกจับกุม และคุมขังอยู่ในเรือนจำ ในความผิดตาม ป.อาญา ม.112 ม.116 และข้อหาอื่น ได้เขียนจดหมายโดยระบุว่า มีเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากลเนื่องจากเจ้าหน้าที่เรือนจำพยายามนำแกนนำม็อบไปนอกแดนกลางดึก เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยหวั่นว่าอาจเกิดเหตุร้าย โดยนายกรัฐมนตรี ย้อนถามว่า “คุกคามอะไร”

การกล่าวอ้างอะไรต่าง ๆ ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน และผมก็ได้สั่งการให้มีการติดกล้องเพื่อไว้คอยดูแลด้วย ว่ามีใครไปทำอะไรหรือเปล่า หรือเขาทำตัวเองหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็ต้องไปดู

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight