Politics

ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย เรียกร้องสภาผ่านร่างแก้ไขรธน.ในวาระ 3

ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย(ภรป.) อันประกอบด้วยนักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน นักวิชาการ และภาคประชาสังคม ขอเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติมฯ ในวาระที่สาม เพื่อให้ประชาชนได้ใช้อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ผ่านการลงประชามติต่อไป

แก้รัฐธรรมนูญ

สืบเนื่องจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2564 ว่า รัฐสภามีหน้าที่และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงประชามติเสียก่อนว่าประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ต้องให้ประชาชนลงประชามติเห็นชอบหรือไม่กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งหนึ่ง นั้น

ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย มีข้อเรียกร้องดังนี้  

1) ในการประชุมรัฐสภาวันที่ 17-18 มีนาคม เพื่อพิจารณาญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 “การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” ในวาระที่สาม ภาคีฯ ขอให้สมาชิกรัฐสภาโดยเฉพาะสมาชิกวุฒิสภาให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติมฯ ตามหน้าที่และอำนาจ เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมลงประชามติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฯ ที่ผ่านวาระที่สามแล้วต่อไป

2) การให้ความเห็นชอบในวาระที่สามต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยมากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมดของรัฐสภา (ประมาณ 369 เสียง) และมีสมาชิกวุฒิสภาเห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่า 84 เสียง ภาคีฯ ขอให้สมาชิกรัฐสภาเข้าร่วมประชุมและร่วมออกเสียงโดยพร้อมเพรียง การงดออกเสียงอาจมีผลทำให้คะแนนเสียงเห็นชอบมีไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเหมือนความพยายามที่จะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฯ ที่รัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบในวาระที่สอง และเป็นการปฏิเสธโอกาสการตัดสินใจโดยตรงของประชาชน

3) การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หมายถึงการจัดทำโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ มิใช่การแก้ไขรายมาตราซึ่งรัฐสภาย่อมทำได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ ตามประเพณีการปกครองของไทย และของนานาประเทศ มีบางคนตีความคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องทำประชามติสามครั้ง ครั้งที่หนึ่งขอความเห็นชอบลอย ๆ ว่าประสงค์ให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ครั้งที่สองขอความเห็นชอบอย่างเจาะจงเมื่อได้จัดทำร่างรัฐธรรมนูญฯ ที่ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่สามขอความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ การตีความเช่นนี้ย่อมหมายถึงการประวิงเวลานั่นเอง

4) อันที่จริง ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้วินิจฉัยว่าต้องขอความเห็นชอบในครั้งที่หนึ่งดังกล่าว เพียงแต่วินิจฉัยว่า เมื่อรัฐสภาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฯ ที่ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญแล้ว จะดำเนินการเพื่อมีผลบังคับเป็นกฎหมายเหมือนการแก้ไขรายมาตราในทันทีไม่ได้ ต้องขอความเห็นชอบจากประชาชนก่อน แล้วจึงดำเนินการเพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญฯ ที่ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญมีผลบังคับต่อไป

5) การนำร่างรัฐธรรมนูญฯ ที่ผ่านวาระที่สามไปลงประชามติเป็นความจำเป็นที่จะต้องทำตามมาตรา 256 ที่มีผลบังคับในปัจจุบัน สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ลงประชามติเสียก่อนว่าประชาชนประสงค์หรือไม่ที่จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย

14 มีนาคม 2564

อ่านข่าวเพิ่มเติม:

Avatar photo