Politics

‘บิ๊กตู่’ ห่วงมลพิษภาคเหนือ ถกประเทศเพื่อนบ้านลดปัญหาการเผา

“บิ๊กตู่” ห่วงมลพิษภาคเหนือ หารือประเทศเพื่อนบ้านแก้ปัญหาการเผา บีบลด “อ้อยไฟไหม้” ในประเทศ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือด้วยความห่วงใย พร้อมสั่งการทุกหน่วยราชการทั้งทหาร พลเรือน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งบูรณาการความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบเร่งด่วน

ประยุทธ์ ภาคเหนือ หมอกควัน

สถานการณ์หมอกควันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงสภาพอากาศที่แห้งแล้ง รวมทั้งอิทธิพลจากกระแสลมประจำฤดูกาล แต่รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจได้หารือกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง แก้ลดจุดความร้อนที่เกิดขึ้นให้มากที่สุด กำชับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ทำงานด้วยความระมัดระวัง ลดอุบัติเหตุหรืออันตรายที่จะเกิดต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งหน่วยราชการทุกพื้นที่ ต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์รายวันได้ทุกช่องทาง

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้จัดทำแผนงานป้องกันและแก้ไขปัญหา ฝุ่นละอองจากไฟป่าและการเผาในที่โล่งในพื้นที่ภาคเหนือ ปี 2564 เพื่อเป็นกรอบการดำเนินงานเฉพาะของพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เน้นการป้องกันไฟป่าและการเผาในที่โล่ง ลดปริมาณเชื้อเพลิงโดยการเก็บมาใช้ประโยชน์ เร่งรัดขับเคลื่อนโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า ผลักดันเครือข่ายภาคประชาชนและจิตอาสาพระราชทาน ลงพื้นที่เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับชุมชน และจัดตั้งคณะกรรมการ/ศูนย์บัญชาการระดับจังหวัด เพื่อรับมือสถานการณ์ จัดชุดปฏิบัติการเข้าเผชิญเหตุและควบคุมสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการเจรจากับประเทศอาเซียนเพื่อลดมลพิษจากหมอกควันข้ามแดนอย่างยั่งยืน ซึ่งประเทศไทยขอหารือเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมาด้วย

สำหรับมาตรการควบคุมการเผาในพื้นที่ปลูกอ้อยอย่างเข้มงวดนั้น สามารถลดการเผาในพื้นที่ปลูกอ้อยได้ 80% ในฤดูการผลิตปี 2563/2564 โดยกำหนดให้โรงงานน้ำตาลรับซื้ออ้อยไฟไหม้เข้าหีบได้ไม่เกิน  20% ต่อวัน และจะลดลงให้เหลือ 0-0.5% ต่อวัน ในปีถัดไป เพื่อให้อ้อยไฟไหม้หมดไปอย่างเด็ดขาดและยั่งยืน  รวมทั้งจัดทำฐานข้อมูลการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม แผนที่พื้นที่แปลงเกษตรที่มีการ “เผาซ้ำซาก” โดยระบุพิกัดที่ชัดเจน เพื่อใช้ในการกำกับติดตาม และการสื่อสารทำความเข้าใจให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

อ้อย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ภาครัฐได้ดำเนินการตามมาตรการบรรเทาปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่างต่อเนื่อง ทั้งการบริหารจัดการจุดความร้อนในพื้นที่ ทำแนวกันไฟ  เพิ่มความชื้นในพื้นที่ด้วยฝายชะลอ  ส่งเสริมการใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรแทนการเผา รณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหาสุขภาพจากหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก เพื่อเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งหลายจังหวัดในขณะนี้ได้ออกประกาศห้ามเผาโดยเด็ดขาดจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 ด้วยแล้ว ทั้งนี้

นายกรัฐมนตรียังฝากถึงประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบขอให้งดกิจกรรมกลางแจ้ง ใส่อุปกรณ์ป้องกัน สวมหน้ากากอนามัย สำหรับผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย เด็กเล็ก ขอให้หลีกเหลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งและสวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หรือส่วนราชการด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo