Politics

รับเงินเยียวยา! พระสงฆ์กว่า 2.5 แสนรูป รอรับเงินเยียวยาจากรัฐบาล!

เยียวยาพระสงฆ์ สำนักงานพระพุทธฯ เร่งสำรวจจ่ายเงินเยียวยาพระภิกษุสามเณร ทั่วประเทศที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19  คาดว่าจะมีอยู่กว่า 2.5 แสนรูป ขณะสำนักปฏิบัติธรรม เดือดร้อนหนัก สอบถามมาตรการเยียวยาจากรัฐบาล 

จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019  (COVIC-19) ได้ส่งผลกระทบไปยังทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือพระสงฆ์ต่างได้รับผลกระทบเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประชาชนรัฐบาลได้ออกมาตรการเยียวผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อยู่หลายมาตรการด้วยกัน และยังคงให้การเยียวยาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มพระสงฆ์ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐบาล ทั้งๆที่ได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน

ล่าสุดสำนักข่าว “TheBangkokInsight” ได้รับเรื่องร้องเรียนความเดือดร้อนจากพระสงฆ์ ซึ่งอยู่ในสำนักปฏิบัติธรรมไชยศิริภูมิ ต.ห้วยเขย่ง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ว่าได้รับความเดือดร้อน หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้สำนักปฏิบัติธรรมไชยศิริภูมิ ได้รับความเดือดร้อนไม่ต่างจากประชาชนทั่วไป พร้อมกันนี้ยังได้สอบถามถึงมาตรการการเยียวของรัฐบาล ที่จะมีต่อพระสงฆ์ว่า จะออกมาหรือไม่อย่างไร การเยียวยาจะเป็นอย่างไร

พระ33

“ความเดือดร้อนไม่เฉพาะแต่ญาติโยม พระเองก็เดือดร้อน ตั้งแต่เกิดโควิด-19 มา การปฎิบัติธรรมในสำนักฯ ก็ไม่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันญาติโยม ก็แทบจะไม่ได้เข้าไปเลยเพราะต่างระมัดระวังเรื่องโควิด-19 ตอนนี้พระสงฆ์ที่ประจำในสำนักปฏิบัติธรรมไชยศิริภูมิ อาศัยการอยู่รอดจากการบิณฑบาตเท่านั้น เมื่อก่อนวันพระ จะมีญาติโยมไปที่สำนักปฏิบัติธรรมฯ แต่หลังจากเกิดโควิด-19 วันพระไม่มีญาติโยมเข้าไปเลย ต้องยอมรับว่าพระก็เดือดร้อน เลยอยากฝากไปถึงรัฐบาลที่จะให้ช่วยดูแลพระสงฆ์ส่วนนี้ด้วย”

เยียวยาพระสงฆ์

ในส่วนของการเยียวยาช่วยพระสงฆ์  สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้จัดทำรายละเอียดโครงการอุดหนุนสมทบ ค่าเครื่องอุปโภคและบริโภคแก่พระภิกษุสามเณร ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด แต่เนื่องจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)ไม่เห็นด้วย

จากความเดือดร้อนของพระสงฆ์ที่เกิดขึ้น ในส่วนของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดเพื่อเสนอรัฐบาล ที่จะเยียวยาพระสงฆ์ต่อไป

เยียวยาพระสงฆ์ เดือดร้อน! 

ก่อนหน้านี้ นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะโฆษก พศ. ระบุว่ากรณีเงินเยียวยาพระสงฆ์จากการระบาดของโรคโควิด-19  นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใย ได้สั่งให้ผู้อำนวยการพศ.แล้ว ซึ่งผู้อำนวยการพศ.ได้ให้ตนดูแลรายละเอียดว่า จะทำอย่างไร เนื่องจากในการขอรับเงินเยียวยา จากการระบาดระล็อตแรกจำนวน 60 บาทต่อรูปต่อวันนั้น ยังไม่ได้รับ

ทั้งนี้เนื่องจากคณะกรรมการที่พิจารณาเรื่องนี้ได้ตั้งข้อสังเกตว่า คณะสงฆ์มีความพร้อมและได้รับปัจจัยต่างๆอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วมีเพียงไม่กี่วัดที่มีความพร้อมในเรื่องนี้ ขอยืนยันว่าพศ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ  ขณะนี้ พศ.ได้ทำรายละเอียดแจกแจงถึงความจำเป็นของพระสงฆ์เสนอต่อนายอนุชา เพื่อเสนอต่อไปยังรัฐบาล

แหล่งข่าวจากพศ. กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จากเงินกู้ตามพระราช กำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการอุดหนุนพระภิกษุสามเณร ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 จำนวน 252,551 รูป จากวัดทั่วประเทศ 2,555 วัด ในอัตรา 60 บาทต่อรูปเป็นเวลา 60 วัน เป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 410 ล้านบาท มาแล้ว แต่ยังไม่ผ่านการพิจารณา

เยียวยาพระสงฆ์

ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจตัวเลขวัดและพระสงฆ์ที่ได้รับความเดือดร้อนอีกครั้ง เพื่อให้ได้ตัวเลขที่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง “สำหรับวัดที่ไม่เดือดร้อน คงจะไม่ได้รับการเยียวยา แต่จะเยียวให้กับวัดและพระสงฆ์ที่ได้รับความเดือดร้อนจริง ตรงนี้ก็น่าจะมีจำนวนไม่น้อย เราจะรวมไปถึงแหล่งปฎิบัติธรรมทั่วไปด้วย” แหล่งข่าวและยืนยันว่าพระสงฆ์จะได้รับการเยียวยาแน่นอน เพราะถือว่าเป็นกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่แล้ว

ก่อนหน้านี้  นายอนุชา ระบุถึงเงินเยียวยาพระสงฆ์ที่ได้รับผลกระทบจากการการระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยว่า อยู่ในระหว่างการของบประมาณ จะต้องมีการพิจารณาเงินเยียวยาช่วยเหลือทั้งในช่วงการระบาดระลอกแรก และระลอกที่สอง ซึ่งเงินเยียวยาในช่วงการระบาดระลอกแรกจำนวน 60 บาทต่อรูปต่อวัน ยังไม่ได้รับงบประมาณ ส่วนเงินเยียวยาการระบาดในระลอกที่สอง ยังไม่ได้กำหนดว่าจะอยู่ที่จำนวนเท่าใด

สำหรับมาตรการลดภาระค่าน้ำประปา และค่าไฟฟ้าให้แก่ศาสนสถานต่าง ๆ ให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพลังงาน พิจารณาโดยการไฟฟ้านครหลวงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการประปานครหลวงการประปาส่วนภูมิภาคปรับลดค่าใช้จ่ายดังกล่าว 50% จากค่าใช้จ่ายจริงเดิมปรับลด 3%

ในส่วนของค่าไฟฟ้าปรับลดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2563 และค่าน้ำประปาปรับลดตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2563

ขณะที่ โครงการ “เราชนะ” นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ณ วันที่ 12 มีนาคม 2564 มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการแล้ว รวมทั้งสิ้น 30.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 103,547 ล้านบาท

เยียวยาพระสงฆ์

ทั้งนี้ เป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการ ร้านธงฟ้าราคาประหยัด พัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ที่มีแอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน”, ร้านค้าคนละครึ่ง ที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้า และผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.2 ล้านกิจการ

สำหรับการใช้จ่ายในโครงการ เราชนะ มาจาก 3 กลุ่ม ดังนี้

  • ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 42,447 ล้านบาท
  • ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูล ของแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และคนละครึ่ง รวมถึงกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้น และยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้วในกลุ่มนี้ มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิมากกว่า 16.6 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสม ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 59,652 ล้านบา
  • ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 5 แสนคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 1,448 ล้านบาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight