Politics

ฮอทปรอทแตก!! ‘ประเทศกูมี’ ทะลุ 12 ล้านวิวแล้ว

นาทีนี้อะไรก็หยุดไม่อยู่กับกระแส “ประเทศกูมี” เพลงแร็พเสียดสีสังคม ในโปรเจค “Rap Against Dictatorship” (RAD) ที่ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น วันนี้ (28 ต.ค.) ยอดวิวบนยูทูบพุ่งไปถึง 12,092,921 วิว แล้ว

dddddd4

ศิลปินแร็พกลุ่มนี้ปล่อยเพลง “ประเทศกูมี” มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา และเป็นที่รู้จักกันในวงแคบๆ เท่านั้น โดยก่อนวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ภาครัฐหยิบยกเรื่อง “ประเทศกูมี” ขึ้นมาพูดถึงนั้น ยอดวิวเพลงนี้บนยูทูบอยู่แค่เพียงหลักแสนเท่านั้น

แต่การที่รัฐให้ความสนใจ กลายเป็นการจุดกระแสให้กับเพลงอย่างไม่รู้ตัว ผู้คนพากันไปหามาฟัง จนทำให้เพลงนี้ดังไปกันใหญ่

ยอดวิวในวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา พุ่งทะลุหลักล้าน ก่อนจะทะยานขึ้่นอย่างต่อเนื่องจนทะลุ 10 ล้านวิวในวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา เรียกได้ว่า ไม่มีใครสนกับท่าทีของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก บก.ปอท. ได้ออกมาพูดถึงว่า เข้าค่ายขัดคำสั่ง คสช. และ ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ รวมทั้งอาจดำเนินคดีกับผู้ที่แชร์เพลงนี้ด้วย

กระแส “ประเทศกูมี” ที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามนี้ ยังทำให้เกิดการออกมาแสดงความเห็นกันจากผู้คนหลายแวดวง ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักกฎหมาย นักวิชาการ ศิลปินดารา และจากบุคคลต่างๆ

นักการเมืองมองไม่ผิดอะไร

ในแวดวงการเมืองนั้น เสียงส่วนใหญ่เห็นว่า เพลงนี้ ถือเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกอย่างหนึ่ง โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเข้าใจแนวทางของเพลงแนวนี้ซึ่งเป็นเช่นนี้ โดยเป็นความพยายามสะท้อนสังคม แต่ไม่ทราบว่าที่เป็นเรื่องขึ้นมาในขณะนี้ ที่ผิดกฎหมายนั้นเป็นประเด็นอะไร

ส่วนการที่รัฐบาลออกมาติติงเพลงนี้นั้น นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ทุกฝ่ายมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็น รัฐบาลก็มีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็น แต่เขาคิดว่า รัฐบาลทำให้คนตามฟังตามดูเพลงนี้มากขึ้น จนทำให้ยอดวิวสูงขึ้น

ขณะที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ทวีตข้อความว่า เชื่อเสมอว่าเพลงคือพลังสำคัญในการสะท้อนและขับเคลื่อนสังคม ศิลปิน Rap Against Dictatorship ได้ทำสิ่งที่กล้าหาญและมีคุณค่าต่อคนไทยทั้งประเทศ ชี้ว่า #ประเทศกูมี คนที่ไม่ยอมจำนนต่อเผด็จการ

tttt

ทางด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า ฟังเพลงประเทศกูมี แล้วโดนหลายประโยค โดยเฉพาะท่อนที่ว่า “ประเทศที่คนไม่อ่านหนังสือ โดยเฉพาะผู้นำ อะ…” ทำให้เขาต้องรีบเดินทางไปยังงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และได้หนังสือที่น่าสนใจมาหลายเล่มครับ พร้อมทิ้งท้ายว่า เวลามีคนมาเตือนว่าเราอ่านหนังสือน้อย ทางออกไม่ใช่ไปโกรธเขา แต่ควรจะออกไปหาหนังสือมาอ่านเพิ่มขึ้น

ส่วนนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ความเห็นทางสังคมขณะนี้ที่แบ่งเป็นสองฝ่าย มีความคิดเห็นที่หลากหลายถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะว่าเนื้อหาเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ทางสังคม และการเมืองในหลายๆ เรื่อง และมีลักษณะประเด็นที่เข้มข้นแหลมคม และว่า ดูแล้วไม่เห็นจะผิดกฎหมายตรงไหน เพราะว่าไม่มีอะไรที่เป็นเท็จ เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่ติชม และยังเป็นแนวความคิดในทางสร้างสรรค์

นายจาตุรนต์ ยังทวีตข้อความถึงเพลงนี้ด้วย โดยบอกว่า เขาชอบเพลง “ประเทศกูมี” พร้อมตั้งคำถามว่าเพลงไม่ดียังไง ทำไมถึงว่าขัดคสช.

คนดังแห่วิจารณ์

ขณะที่บุคคลที่มีชื่อเสียง และบรรดาคนดังบนโลกออนไลน์ ก็ออกมาวิจารณ์เพลงนี้เช่นกัน

“อุ๋ย บุดดาเบลส” นักร้องชื่อดัง ได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยบอกว่า เสรีภาพเป็นคนละเรื่องกับการละเมิดกฎหมาย และหากจงใจปลุกระดมอาจมีการเลื่อนเลือกตั้ง ทั้งยังได้ตอบโต้ความเห็นของผู้ที่เข้ามาคอมเมนท์ในเรื่องนี้ว่า เสรีภาพมีขอบเขต ไปด่าชาวบ้านทั่วยังโดนฟ้องหมิ่นประมาท และว่า บางเรื่องต้องใช้เวลากว่าจะเข้าใจ ถึงมีคำว่าวัยวุฒิ

natee

ขณะที่นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว มีใจความโดยสรุปได้ว่า เขาเป็นคนไทย ที่เรียกได้ว่าเป็นชาตินิยม แต่ไม่ถึงกับคลั่งชาติ ซึ่งใครจะด่ารัฐบาล ด่านายกรัฐมนตรี ด่ารัฐมนตรี ด่านักการเมือง ด่าข้าราชการประจำ ก็ด่าไปเถอะ แต่ถ้าด่าประเทศไทย รับไม่ได้

เช่นเดียวกับเพจดังบนเฟซบุ๊ก “P.khondee (พี่คนดี กวีสมัครเล่น)” ที่โพสต์ข้อความถามกลับว่า ใครบังคับให้อยู่ในประเทศไทย พร้อมกับโต้กลับเนื้อเพลงไปทีละข้อ และสรุปท้ายว่า “ถ้าเราแยกความจริงออกจากความเท็จไม่ได้ เราจะตกเป็นเหยื่อไปตลอดกาล เช่นกัน คนชังชาติ ต่อให้มีความสามารถก็ไม่น่าชื่นชม”

“ลุงตู่ดิจิทัล” แรงไม่เท่า

44073620 467816390380648 6478959553290436608 o

ก่อนที่เกิดปรากฎการณ์ “ประเทศกูมี” ฟีเวอร์นี้ ฝั่งรัฐบาลเอง ก็เพิ่งสร้างความฮือฮาบนโลกไซเบอร์เช่นกัน จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจกระโดดเข้าร่วมสังคมโซเชียลมีเดีย ซึ่งเฟซบุ๊ก เพจ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” ใช้เวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมง ก็มีผู้กดไลค์ไปร่วม 2 แสนคนแล้ว ทั้งยังทำให้เกิดฉายาใหม่ “ลุงตู่ดิจิทัล” ตามมาด้วย

จนถึงวันนี้ เพจของนายกรัฐมนตรี มียอดผู้กดไลค์อยู่ที่ 424,977 คน ซึ่งแม้จะถือว่าเป็นจำนวนมาก เมื่อเทียบกับระยะเวลาในการเปิดเพจ แต่ก็ยังถือว่าห่างชั้นกันมาก กับปรากฎการณ์ “ประเทศกูมี”

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight