ไม่รอด!! ศาลสั่งคุกแกนนำ “กปปส.” ชัตดาวน์กรุงเทพฯ ชี้ “เทพเทือก” เจอคุก 5 ปี อีก 3 รัฐมนตรีอ่วม ส่อหลุดเก้าอี้
ผู้สื่อข่าวรายงานวาา ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีกบฏ กปปส. ชุดใหญ่สำนวนหลัก หมายเลขดำ อ.247/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. กับพวกแกนนำและแนวร่วม กปปส. รวม 39 คน เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ, ก่อการร้าย, ยุยงให้หยุดงานฯ, กระทำให้ปรากฏด้วยวาจาหรือวิธีการอื่นใด ทำให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในราชอาณาจักรฯ, อั้งยี่, ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ, บุกรุกในเวลากลางคืนฯ และร่วมกันขัดขวางการเลือกตั้งฯ โดยนายสุเทพกับพวกจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัวทุกคน
คดีนี้อัยการโจทก์ระบุฟ้องพฤติการณ์ความผิดพวกจำเลยสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย. 2556 – 1 พ.ค. 2557 ต่อเนื่องกัน นายสุเทพ จำเลยที่ 1 ได้จัดตั้งคณะบุคคล ชื่อ “คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” หรือกลุ่ม กปปส. มีนายสุเทพเป็นเลขาธิการ โดยร่วมกันมั่วสุมเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร กองกำลังแบ่งหน้าที่กันกระทำก่อความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ฐานเป็นกบฏเพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองทั้งอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ โดยร่วมกันยุยง ปลุกระดมให้ประชาชนทั่วประเทศกระด้างกระเดื่องร่วมชุมนุมขับไล่ ก่อความไม่สงบเพื่อขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ให้ออกจากตำแหน่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป เพื่อมิให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เข้าบริหารประเทศ ให้ข้าราชการระดับสูงรายงานตัวกับกลุ่ม กปปส.
จากนั้น กปปส.จะแต่งตั้งคณะบุคคลเข้าบริหารประเทศเป็นรัฐบาลประชาชน เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่งจะออกคำสั่งแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและ ครม. โดยจะนำรายชื่อขึ้นกราบบังคมทูลเอง รวมทั้งจัดตั้งกองกำลังส่วนหนึ่งพร้อมอาวุธเข้าไปบุกยึดสถานที่ราชการและหน่วยงานสำคัญต่างๆ หลายแห่ง เช่น ทำเนียบรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานเขตหลักสี่ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง) เพื่อไม่ให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินได้ รวมทั้งการปิดกั้น ขัดขวางเส้นทางคมนาคมขนส่ง เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ ช่วงระหว่างวันที่ 13 ม.ค. – 2 มี.ค. 2557 พวกจำเลยได้บังอาจปิดกรุงเทพมหานครด้วยการตั้งเวทีปราศรัยทั่วกรุงเทพฯ รวม 7 จุด ปิดกั้นเส้นทางการจราจร จัดตั้งกองกำลังรักษาพื้นที่ วางเครื่องกีดขวาง ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง การกระทำของพวกจำเลยล้วนไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 เพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงอำนาจบริหารตามรัฐธรรมนูญ เหตุเกิดในกรุงเทพมหานคร และอีกหลายท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเกี่ยวพันกัน
โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยด้วย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113, 116, 117, 135/1, 209, 210, 215, 216, 362, 364, 365 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 มาตรา 76, 152
สำหรับรายชื่อจำเลยคดีนี้ทั้งหมด 39 คน เรียงลำดับ ประกอบด้วย
- นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
- นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
- นายชุมพล จุลใส
- นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
- นายอิสสระ สมชัย
- นายวิทยา แก้วภราดัย
- นายถาวร เสนเนียม
- นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
- นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์
- น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก
- พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ
- นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
- นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์
- นายถนอม อ่อนเกตุพล
- นายสมศักดิ์ โกศัยสุข
- นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตพระพุทธะอิสระ
- นายสาธิต เซกัลป์
- น.ส.รังสิมา รอดรัศมี
- พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี
- พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ
- นายแก้วสรร อติโพธิ
- นายไพบูลย์ นิติตะวัน
- นายถวิล เปลี่ยนศรี
- เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์
- นายมั่นแม่น กะการดี
- นายคมสัน ทองศิริ
- พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์
- นายพิภพ ธงไชย
- นายสาวิทย์ แก้วหวาน
- นายสุริยะใส กตะศิลา
- นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด
- พ.ต.ท.ภัทรพงศ์ สุปิยะพาณิชย์
- นายสำราญ รอดเพชร
- นายอมร อมรรัตนานนท์
- นายพิเชษฐ พัฒนโชติ
- นายสมบูรณ์ ทองบุราณ
- นายกิตติชัย ใสสะอาด
- นางทยา ทีปสุวรรณ
- นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
วันนี้ นายสุเทพ เลขาธิการ กปปส. กับพวกจำเลยรวม 37 คน เดินทางมาศาล ส่วน พล.อ.ปรีชา จำเลยที่ 11 เสียชีวิตแล้ว ขณะที่ พ.ต.ท.ภัทรพงศ์ จำเลยที่ 32 ซึ่งถูกคุมขังในเรือนจำด้วยคดีอื่น ให้รับฟังคำพิพากษาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังเรือนจำ ขณะที่บรรยากาศในศาล มีผู้ชุมนุมอดีต กปปส. จำนวนหนึ่ง มามอบดอกไม้ให้กำลังใจจำเลยคดี กปปส. พร้อมร่วมรับฟังคำพิพากษาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่ศาลจัดแยกไว้ให้ที่ห้องพิจารณา 701 ด้วย ในส่วนการรักษาความปลอดภัย มีเจ้าพนักงานตำรวจศาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.พหลโยธิน ร่วมกันดูแลความสงบเรียบร้อย
ศาลเริ่มอ่านคำพิพากษาเวลา 10.51 น. เสร็จสิ้นในเวลา 17.20 น. พิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยนำสืบแล้ว มีผลพิพากษาจำคุกจำเลยสำคัญคือ
- นาย สุเทพ จำเลยที่ 1 จำคุก 5 ปี
- นายชุมพล จำเลยที่ 3 จำคุก 9 ปี 24 เดือน
- นายพุทธิพงษ์ จำเลยที่ 4 จำคุก 7 ปี
- นายอิสสระ จำเลยที่ 5 จำคุก 7 ปี 16 เดือน
- นายวิทยา จำเลยที่ 6 จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท
- นายถาวร จำเลยที่ 7 จำคุก 5 ปี
- นายณัฏฐพล จำเลยที่ 8 จำคุก 6 ปี 16 เดือน
- นายเอกนัฏ จำเลยที่ 9 จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท
- นายสุวิทย์ จำเลยที่ 16 จำคุก 4 ปี 8 เดือน เป็นต้น
ทั้งนี้ สำหรับคุณสมบัติรัฐมนตรี และส.ส.ที่ถูกระบุไว้ตามรัฐธรรมนูญ หากเป็น ส.ส. ถูกคำพิพากษาจำคุก ไม่ได้ประกัน ถูกหมายขังเข้าเรือนจำจะพ้นจาก ส.ส. ตาม รธน.ม.98(6) แต่หากเป็นรัฐมนตรีไม่ว่าพิพากษาจะถูกจำคุกหรือรอลงอาญาหรือคดีถึงที่สุดหรือไม่ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งทันทีตาม รธน.160 (7) และ 170 (4)
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘แกนนำ กปปส.’ ขึ้นศาล ‘สุเทพ’ ลั่นน้อมรับคำตัดสิน ‘รู้ตัว-ทำใจล่วงหน้า’
- 24 ก.พ. ระทึก! ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดี ‘กบฏ กปปส.’ ชุดใหญ่ 36 คน
- ‘หมอเหรียญทอง’ ประกาศจัดหนัก! ไม่แคร์อดีตใครจะเป็น ‘กปปส.-พธม.’ มาก่อน