Politics

ฉบับเต็ม! มติ ป.ป.ช.ฟัน ‘เอ๋ ปารีณา’ ผิดจริยธรรมร้ายแรงคดีรุกป่า สอบ ‘ส.ส.’ อีกนับสิบ

ป.ป.ช.ฟัน “เอ๋ ปารีณา”ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง คดีบุกรุกป่า 711 ไร่ เสียหาย 36 ล้าน ชี้ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที หากศาลประทับรับฟ้อง เผย กำลังตรวจสอบ ส.ส.-ผู้ดำรงตำแหน่งอื่น ครอบครอง ภ.บ.ท.5 อีกสิบกว่าราย 

วันนี้ (10 ก.พ.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการ คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า ป.ป.ช. มีมติว่า กรณีที่ นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ถูกกล่าวหาว่า ยึดถือ ครอบครอง และใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐโดยมิชอบ เป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีเป็น ส.ส.กระทำการอันเป็นการขัดกัน ระหว่างประโยชน์ส่วนตน กับประโยชน์ส่วนรวม

ปารีณา

ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรง และกรณีเป็น ส.ส.กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย ต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการ ของศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 11 ข้อ 17 ประกอบ ข้อ 27 วรรคสอง

จากการไต่สวนปรากฏว่า นางสาวปารีณา ได้ร่วมกับนายทวี ไกรคุปต์ บิดา เข้ายึดถือ ครอบครอง และทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐ พื้นที่จำนวน 711 ไร่ 2 งาน 93 ตารางวา โดยมีพฤติการณ์ ตั้งแต่ปี 2546 มีการขอใช้ไฟฟ้าต่อการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจอมบึง และชำระภาษีโรงเรือน และที่ดินต่อ อบต.รางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เพื่อประกอบกิจการปศุสัตว์

ในปี 2549 – 2556  ชำระภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.5) ทั้ง 29 แปลง ต่อ อบต.รางบัว ซึ่งมีการกระจายการถือครองที่ดินดังกล่าว โดยอาศัยชื่อบุคคลอื่น ซึ่งเป็นแรงงานที่อยู่ในฟาร์ม มาถือครองที่ดินในเอกสาร ภ.บ.ท.5

จากนั้นในปี 2555 ได้มีการโอนกลับมาเป็นชื่อของ นางสาวปารีณา ทั้งหมด และในปี 2557 อบต.รางบัวได้ยกเลิกการเก็บภาษีบำรุงท้องที่ดังกล่าว แต่นางสาวปารีณา ก็ยังคงยึดถือ ครอบครอง และใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว โดยไม่มีสิทธิครอบครอง และมิได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ และ ส.ป.ก. แต่อย่างใด

กระทั่งในปี 2555 – 2562 นางสาวปารีณา ได้ขออนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ต่อ อบต.รางบัว และใบรับรองมาตรฐานฟาร์ม “เขาสนฟาร์ม” และ “เขาสนฟาร์ม 2” บนที่ดินดังกล่าว ต่อกรมปศุสัตว์ และในปี 2561 ได้ยื่นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทปารีณา ไกรคุปต์ จำกัด เพื่อประกอบกิจการดังกล่าว

จากนั้น เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 นางสาวปารีณา ได้เข้าปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. โดยยังคงยึดถือ ครอบครอง และทำประโยชน์ ในที่ดินของรัฐดังกล่าว โดยอ้างเอกสารแบบแสดงรายการที่ดินฯ (ภ.บ.ท. 5) ทั้ง 29 แปลง ที่ถูกยกเลิกไปแล้ว เป็นพื้นที่ 711 ไร่ 2 งาน 93 ตารางวา คำนวณค่าเสียหายเป็นตัวเงิน จำนวน 36,224,791 บาท

ปารีณา

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนแล้ว เห็นว่า นางสาวปารีณา ในฐานะผู้แทนของประชาชน จะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยปราศจากความขัดกันแห่งผลประโยชน์ และต้องประพฤติปฏิบัติตน ให้ถูกต้องเป็นแบบอย่างที่ดี อยู่ในกรอบของจริยธรรมในการดำรงตน เคารพ ยึดถือ และปฏิบัติ ตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ซึ่งบัญญัติออกมาเพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน เพื่อประโยชน์ของประชาชนหรือประโยชน์ของรัฐ มากกว่าการคำนึงถึงประโยชน์ของตนเอง และพวกพ้อง

แต่นางสาวปารีณา กลับไม่ยึดถือระเบียบ หลักเกณฑ์ กฎหมาย และไม่ประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ หรือเกี่ยวกับการปฏิรูปที่ดิน ที่มีเจตนารมณ์ เพื่อต้องการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบความเดือดร้อน และลดความเหลื่อมล้ำ ในฐานะของบุคคลในทางเศรษฐกิจและสังคม

จึงมีมติว่า เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาโดยตรงเพื่อวินิจฉัยต่อไป

คดีดังกล่าวจะเป็นมาตรฐานใหม่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งกรณีของนางสาวปารีณา ถือเป็นสำนวนแรก ของ ส.ส. ในการกระทำผิดฝ่าฝืนจริยธรรมร้านแรง

ส่วนนางสาวปารีณาจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. หรือไม่นั้น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 2561 ระบุว่า เมื่อ ป.ป.ช. ส่งศาลฎีกาไปแล้ว ศาลฎีกาประทับรับฟ้อง ก็จะเป็นเหตุให้ ส.ส. หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที เว้นแต่ศาลจะวินิจฉัยเป็นอย่างอื่น อาจจะไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ได้

ส่วนการดำเนินการของ ป.ป.ช.ในการส่งเรื่องไปยังศาลฎีกานั้นจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จไม่ให้เกินกรอบภายใน 30 วัน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการยื่นคำร้องในแง่จริยธรรม กรณี ส.ส. หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่น มีการยึดถือครอบครองที่ดินภ.บ.ท. 5 แต่กรณีนี้ก็ต้องไปตรวจสอบว่ายึดถือครอบครองตั้งแต่เมื่อใด ปัจจุบันยังมีการยึดถือครอบครองหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบ โดยมีจำนวนหลายสิบคน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo