Politics

ตำรวจเตรียมกำลัง 7 กองร้อยคุม ‘ม็อบ 3 นิ้ว’ นัดรวมพลพรุ่งนี้

ตำรวจเตรียมกำลัง 7 กองร้อยคุม “ม็อบ 3 นิ้ว” นัดรวมพลพรุ่งนี้ ด้าน “บช.น.” ยันมีมาตรการดูแลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย นุ่มนวล เป็นขั้นเป็นตอน

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีกลุ่มราษฎร นัดชุมนุมที่สกายวอร์ค หน้าห้างมาบุญครอง ในวันพรุ่งนี้ (10 ก.พ.) เวลา 17.00 น. ว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ประเมินสถานการณ์ไว้ 3 ระดับ ระดับที่ 1 หากไม่มีความรุนแรงมาก ก็เตรียมกำลังควบคุมฝูงชน (คฝ.) ไว้ 1-2 กองร้อย ระลอกที่ 2-3 มีเตรียมไว้อย่างละ 2 กองร้อย สับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน เบื้องต้นจะใช้กำลังจาก บก.อคฝ. เป็นหลัก และพื้นที่ บก.น. 6 ยืนยันว่า ไม่น่าเป็นห่วงในการใช้กำลังควบคุมพื้นที่

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์

ทั้งนี้ การประเมินสถานการณ์ทางกลุ่มจะชักชวนคนได้มากเพียงใด ต้องดูแนวโน้มในช่วงเย็นวันนี้ ว่าหาก 4 แกนนำ คือ นายพริษฐ ชิวารักษ์ นายอานนท์ นำภา นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และ นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม ไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราว อาจจะมีการระดมคนมาได้จำนวนมาก เนื่องจากทั้งหมดเป็นแกนนำหลักเรียกร้องการชุมนุมทุกครั้ง ซึ่งประมาทไม่ได้เรื่องการเตรียมความพร้อม เพราะอาจมีสถานการณ์อื่นมาสอดแทรกด้วย เช่น สถานการณ์การเมืองของประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเรื่องที่ บช.น. จะประเมินอยู่เป็นระยะ ไม่มีสูตรสำเร็จว่าจะเตรียมกำลังไว้มากน้อยเพียงใด

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวอีกว่า ขอเตือนผู้ชุมนุมว่าการทำกิจกรรมในห้วงนี้ เสี่ยงผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ, พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ซึ่งทาง บช.น. มีมาตรการดูแลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และจะบังคับใช้กฎหมายอย่างนุ่มนวล เป็นขั้นเป็นตอน

ส่วนกรณีที่จุดนัดชุมนุมใกล้กับเขตพระราชฐานนั้น พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า ต้องประเมินสถานการณ์เป็นระยะ ๆ หากการชุมนุมมีคนไม่มาก เป็นการแสดงออกที่พอควบคุมได้ ผู้บัญชาการเหตุการณ์จะเป็นผู้ตัดสินใจ ยังตอบไม่ได้ว่าจะทำอย่างไร ทั้งนี้ตำรวจคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก ขณะเดียวกันต้องรักษาสมดุลการบังคับใช้กฎหมายไปด้วย มีขั้นตอนการควบคุมไม้ให้ฝ่าฝืนกฎหมายมากเกินขอบเขต และคาดว่าไม่น่ามีความรุนแรงเกิดขึ้น

ด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เผยว่า ขณะนี้ยังมีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อยู่ หากกลุ่มใดทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ทางเจ้าหน้าที่มีความจำเป็นที่จะไม่อนุญาตให้จัดกิจกรรม แต่ยืนยันว่าจะดูแลให้มีความเรียบร้อยมากที่สุด และขอความร่วมมือให้ทุกคนคำนึงถึงการแพร่ระบาดของโรค และอย่าฝ่าฝืนกฎหมาย

ปิยะ1
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.

ส่วน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า สำหรับกรณีกลุ่มราษฎร ได้มีการนัดรวมตัวเคาะกาละมังขับไล่เผด็จการ ตั้งแต่เวลา 17.00 น.วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บริเวณลานสกายวอล์คหน้าห้างมาบุญครองเซ็นเตอร์นั้น เรื่องนี้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน จำนวน 3 กองร้อย และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.5 อีก 2 กองร้อย รวมทั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.6 อีก 2 กองร้อย ซึ่งภารกิจหลักของตำรวจ คือการเฝ้าระวังป้องกันเหตุร้าย เนื่องจากมีการปลุกระดมจากกลุ่มผู้ชุมนุมให้มารวมตัวทำกิจกรรมกัน ซึ่งไม่อาจกระทำได้เนื่องจากมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เรื่องการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ดังนั้นจึงขอเรียนว่าการรวมตัวร่วมทำกิจกรรมดังกล่าวมีความผิดตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “ราษฎร” โพสต์ข้อความดังนี้ ม็อบ10กุมภา รวมพลคนไม่มีจะกิน ตีหม้อไล่เผด็จการ พบกันที่สกายวอล์ก หน้า MBK Center 10 กุมภาพันธ์ 2564 ตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป ราษฎรร่วมกับเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ร่วมกันประกาศกร้าว ว่าเราจะไม่ยอมทนอีกต่อไป ในเมื่อรัฐบาลประยุทธ์ยังคงเพิกเฉยต่อความเดือดร้อนของประชาชน ปล่อยให้คนไทยอดตาย รับกรรมทั้งขึ้นทั้งล่อง งานก็ไม่มี เงินเยียวยาก็ไม่ได้ ทั้งที่ผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโรคต่างออกมาเรียกร้อง ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกันไม่เว้นแต่ละวัน รัฐบาลก็ยังแก้ปัญหาแบบขยักขย่อน ทำงานแบบขอไปที รัฐบาลแบบนี้มีไว้ทำไม!!

เตรียมหม้อเตรียมไม้มาเคาะ ส่งเสียงตะโกนไล่เผด็จการในคราบรัฐบาลไร้ประโยชน์ด้วยกัน วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป บริเวณสกายวอล์ก หน้า MBK Center

Avatar photo