Politics

วันแห่งความทรงจำ!! ‘หมอธีระ’ เผยยอดติดเชื้อโควิดทะลุ 100 ล้านคนแล้ว

หมอธีระ เผย 26 มกราคม 2564 วันแห่งความทรงจำ ติดเชื้อโควิดเกิน 100 ล้านคนแล้ว ชี้ระลอกนี้ยังไม่จบง่าย ๆ อย่างที่หลายคนหวัง แนะต้องระมัดระวังให้ดี

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat รายงาน ยอดผู้ติดเชื้อวันนี้ โดยระบุว่า “26 มกราคม 2564…วันแห่งความทรงจำ…” ติดเชื้อเกิน 100 ล้านคน…ภายในเวลาประมาณ 1 ปี 1 เดือนเท่านั้น เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 474,338 คน รวมแล้วตอนนี้ 100,165,647 คน ตายเพิ่มอีก 9,507 คน ยอดตายรวม 2,146,456 คน

  • อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 135,774 คน รวม 25,812,699 คน ตายเพิ่มอีก 1,664 คน ยอดตายรวม 430,807 คน
  • อินเดีย ติดเพิ่ม 9,354 คน รวม 10,677,710 คน
  • บราซิล ติดเพิ่มถึง 5,558 คน รวม 8,850,135 คน
  • รัสเซีย ติดเพิ่ม 19,290 คน รวม 3,738,690 คน

หมอธีระ

  • สหราชอาณาจักร ติดเพิ่มอีก 22,195 คน รวม 3,669,658 คน
  • อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส ตุรกี อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลายพันถึงหลายหมื่นต่อวัน
  • แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ อิสราเอล อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น
  • พรุ่งนี้อินโดนีเซียจะทะลุหนึ่งล้านคนเป็นประเทศที่ 19 ของโลก คาดว่าเนเธอร์แลนด์จะแตะล้านประเทศที่ 20 ในอีกสองสัปดาห์
  • แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็ยังมีติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
  • เมียนมาร์ เกาหลีใต้ จีน และไทย ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนฮ่องกง ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่นิวซีแลนด์ และเวียดนาม ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

…สถานการณ์ในเมียนมาร์ เมื่อวานติดเพิ่มขึ้นอีก 383 คน ตายเพิ่มอีก 7 คน ตอนนี้ยอดรวม 137,957 คน ตายไป 3,069 คน อัตราตายตอนนี้ 2.2%…

วิเคราะห์สถานการณ์ระบาดทั่วโลก จะพบว่าตั้งแต่พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นมา ติดเชื้อกันเพิ่มอีก 50 ล้านคนในเวลาไม่ถึง 3 เดือน (80 วัน) เป็นอัตราการติดเชื้อที่ไวกว่าเดิมเกือบ 4 เท่า

ทั้งนี้ อัตราการติดเชื้อค่อนข้างคงที่มาตลอดในช่วง 50-100 ล้านคน โดยเพิ่ม 10 ล้านคนทุก ๆ 15-17 วัน

คาดว่าเราจะเริ่มเห็นผลของการชะลอการระบาดระดับประเทศได้ จากการเข้าถึงวัคซีนในหลายต่อหลายประเทศ หลังเดือนมีนาคม แต่จะยังไม่สามารถหยุดการระบาดในระดับโลกได้ ส่วนประเทศที่ยังไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนอย่างทั่วถึงได้ก็จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการระบาดซ้ำได้มากหากไม่ป้องกันให้ดี

ทั้งนี้ ไวรัสที่กลายพันธุ์ใหม่หลายสายพันธุ์เป็นที่น่าวิตก เช่น สายพันธุ์สหราชอาณาจักรที่มีการศึกษาแล้วพบว่าแพร่ได้ไวกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมราว 50% และทำให้เสียชีวิตได้มากกว่าเดิมถึง 1.65 เท่า แม้จะพบว่าวัคซีนที่คิดค้นมาฉีดป้องกันนั้นจะยังสามารถครอบคลุมสายพันธุ์นี้ได้ดีก็ตาม ประเทศอื่น ๆ ก็มีโอกาสที่จะเกิดการระบาดของสายพันธุ์นี้ได้

ในขณะที่สายพันธุ์อื่น เช่น แอฟริกาใต้ นั้น ล่าสุดพบว่ามีแนวโน้มที่จะตอบสนองต่อวัคซีนได้น้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น วัคซีนของ Moderna พบว่าแอนติบอดี้ที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนลดลงไปราว 6 เท่า และอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพได้ ตอนนี้กำลังวิจัยกันเพิ่มเติมว่าจำเป็นต้องฉีดเข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้นหรือไม่ และได้ยินว่ากำลังจะทำวัคซีนเวอร์ชั่นใหม่ให้สามารถครอบคลุมสายพันธุ์แอฟริกาใต้ได้ดีขึ้น คงต้องเอาใจช่วยให้สำเร็จโดยเร็ว

วิเคราะห์สถานการณ์เมืองไทย…

“ดูเงื่อนเวลา และเงื่อนไขที่ประชาชนจะได้รับวัคซีนชนิดต่าง ๆ แล้ว คงได้แต่เน้นย้ำให้เราทุกคนป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัดในระยะยาว ส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่าจะยาวไปถึงกลางปีหน้าเป็นอย่างน้อย กว่าที่คนส่วนใหญ่จะสามารถได้รับวัคซีนต่าง ๆ ได้” หมอธีระ ระบุ

ย่างก้าวของการจัดการการระบาดที่ผ่านมา ยังไม่สามารถตัดวงจรการระบาดได้

หากดูตามธรรมชาติการระบาดซ้ำแล้ว ระลอกสองนี้ยังไม่จบง่าย ๆ อย่างที่หลายคนหวังไว้ครับ เคยคาดการณ์ไว้ว่า หากเราจัดการอย่างเข้มข้น จะกดการระบาดได้โดยใช้เวลาไปถึงมีนาคมเป็นอย่างน้อย

แต่จากการเลือกใช้มาตรการยืดหยุ่น ทำให้ตัดวงจรการระบาดได้ยาก และจำนวนตรวจคัดกรองนั้นเป็นเพียงระดับหลักหมื่น ซึ่งน้อยกว่าหลายต่อหลายประเทศที่มีอัตราการตรวจพบว่าติดเชื้อจากการส่งตรวจที่พอ ๆ กับไทย หลายเท่า

ดังนั้น จึงมีแนวโน้มที่จะมีคนติดเชื้อแฝงในชุมชนอยู่อีกจำนวนไม่น้อย ซึ่งจะทำให้เกิดการแพร่เชื้อรับเชื้อกันไปอย่างต่อเนื่องดูตามเนื้อผ้าแล้ว การใช้ชีวิตประจำวันจะค่อนข้างลำบากมาก และหากกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวตามที่ฝันไว้นั้น ภายใต้รูปแบบการดำเนินธุรกิจและบริการต่าง ๆ ในปัจจุบัน จะทำให้เกิดปัญหาการระบาดหนักตามมา ดังที่เราเห็นในประเทศอื่น ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังให้ดี

ด้วยรักต่อทุกคน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK