Politics

อย่าหาว่าขู่! ‘บิ๊กตู่’ เดือด ‘ธนาธร’ บิดเบือน สั่งดำเนินคดีทุกเรื่อง

“นายกรัฐมนตรี” เดือด!! “ธนาธร” บิดเบือนข้อมูล ยันไม่ใช่ข้อเท็จจริง พร้อมสั่งดำเนินคดีทุกเรื่อง ลั่นอย่าหาว่าขู่

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ ถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การนำเข้าวัคซีนที่มีการเชื่อมโยงกับบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด โดยโยงเกี่ยวการเมืองและใช้คำว่า “วัคซีนพระราชทาน” ว่า ตนถือว่าเป็นการบิดเบือน ทุกเรื่อง ทุกอย่างไม่ใช่ข้อเท็จจริงเลย ดังนั้นขอให้ทุกคนระมัดระวังไว้ด้วยการเสนอข่าวพวกนี้

“เรื่องอะไรที่เป็นการบิดเบือน ไม่ใช่ข้อเท็จจริงแล้วนำมาแพร่ ไม่ว่าในสื่อหรือโซเชียลมีเดีย ผมให้ดำเนินคดีทุกเรื่อง ทุกรายการ ก็ขอให้ทุกคนระมัดระวังด้วย อย่าหาว่าผมเอากฎหมายไปขู่ แต่ต้องรักษาความเชื่อมั่นของรัฐบาลไปด้วย ไม่เช่นนั้นต่างคนก็ต่างเขียนอะไรกันไปแล้วไม่รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้นกฎหมายมีทุกตัวอยู่แล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ประยุทธ์1916421 1

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาเปิดเผย ข้อมูลเรื่องการจัดซื้อวัคซีน โควิด-19 แล้วโยงไป ถึงกรณีที่รัฐบาล ลงนามในความร่วมมือการผลิตวัคซีนกับ “สยามไบโอไซเอนซ์” ว่า คนที่พูดเรื่องดังกล่าวรู้หมดทุกเรื่อง ไม่รู้อย่างเดียวคือ รู้จักสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ

ประเทศไทยเรามาถึงวันนี้ได้ ใครเป็นผู้ให้กำเนิดทางการแพทย์ การสาธารณสุข ใครเป็นคนวางรากฐานระบบสาธารณสุข และการแพทย์จนเป็นที่ยอมรับของคนทั้งโลก และสามารถทำให้ประชาชนทั้งประเทศมีพื้นฐานสุขภาพที่ดี มีพื้นฐานชีวิตที่ดีมีความแข็งแรง

“ใครเป็นคนพระราชทานสิ่งของต่าง ๆ ตลอดระยะเวลาเป็น 100 ปี เมื่อประเทศไทยมีภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นทางธรรมชาติหรือภัยพิบัติ ถ้าจะเอาแบบไม่ต้องจำกันยาว ๆ เอาใกล้ ๆ นี้ รถตรวจหาเชื้อโควิด 20 คัน ใครเป็นคนให้ ชุดพีพีอีเป็นล้าน ๆ ชุด ใครเป็นคนให้เวชภัณฑ์ ทุนทรัพย์ เป็นพันล้าน ที่มอบให้กับคณะแพทย์ไปปรับปรุง ไปลงทุนในระบบการสาธารณสุขระบบการแพทย์ ใครพระราชทานให้ เคยไปหรือไม่ตามโรงพยาบาลต่างจังหวัด และเห็นระบบปรับอากาศ ระบบที่ทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ ให้เข้าถึงการแพทย์การสาธารณสุข ไม่แพ้กับคนในเมืองใหญ่ ไปทำการบ้านตรงนี้มาก่อนว่า ใครทำให้ แล้วค่อยออกมาวิพากษ์วิจารณ์

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์ เพราะไม่มีอะไร ที่พระองค์ท่านได้ทำ แล้วไม่เกิดประโยชน์ให้กับบ้านเมืองให้กับประชาชน เรื่องวัคซีนเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะวัคซีนโควิค-19 ซึ่งเป็นวัคซีนใหม่ เป็นวัคซีนที่ต้องใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องไม่เอาเรื่องการเมืองมาเป็นประเด็น มีเรื่องอื่น ๆ เยอะแยะไป

“ต้องขอให้ช่วยกันรักษาบ้านเมืองตอนนี้ให้ได้มากที่สุด ปล่อยให้แพทย์เขาทำไป เราไม่ใช่แพทย์เราทำเรื่องอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมืองได้อีกเยอะถ้าไม่ได้ทำอะไร พูดอะไรก็ได้หมด เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะทำอะไรให้เป็นอย่างที่ตัวเองต้องการก็ต้องทำให้ตัวเองเข้ามาบริหารบ้านเมืองให้ได้ก่อน” นายอนุทิน กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo