Politics

ออกก่อนกำหนด! รอปล่อย 2 หมื่นผู้ต้องขังได้อภัยโทษ

“สมศักดิ์” หารือประธานศาลฎีกาปล่อย 20,000 ผู้ต้องขังได้อภัยโทษก่อนครบกำหนด ลดแออัดป้องกันโควิดระบาดในเรือนจำ พร้อมเร่งกรมราชทัณฑ์ทำเอกสาร สั่งห้ามนักโทษย้ายเรือนจำ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่าตนเข้าพบนางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกา  เพื่อหารือให้ศาลพิจารณาเรื่องหมายปล่อยตัวผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ และกลุ่มผู้ต้องขังที่ได้รับการลดโทษ  กำลังจะพ้นโทษออกจากเรือนจำจำนวน 20,000 คนทั่วประเทศ ให้เร็วกว่าตามขั้นตอนปกติที่กำหนดไว้ว่า จะปล่อยให้หมดภายใน 120 วัน เพื่อลดความแออัดในเรือนจำ เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของสถานการณ์ covid-19 ขณะนี้มีผู้ต้องขังที่ปล่อย เนื่องจากครบกำหนดโทษ ไม่รวมกับผู้ต้องขังที่อยู่ในบัญชีเฝ้าจับตาในข้อหาร้ายแรง 7 ฐานความผิด จึงขอสังคมมั่นใจ และสบายใจได้เนื่องจากกลุ่มที่ได้รับการปล่อยตัวเป็นกลุ่มผู้ต้องขังที่เหลือโทษไม่ถึง 1 ปี ตนได้รายงานเรื่องการปล่อยตัวผู้ต้องขังต่อครม.แล้ว

สำหรับขั้นตอนการปล่อยตัวทางกรมราชทัณฑ์ ต้องทำเอกสารเพื่อเสนอต่อศาลให้เร็วขึ้นด้วย เพื่อที่ศาลฎีกาจะได้ออกหมายปล่อยตัวเร็วขึ้น โดยผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้ จะไม่มีเงื่อนไขการติดกำไลอีเอ็ม นอกจากนี้ ตนจะหารือกับศาลในประเด็นการติดตั้งระบบ Conference เพื่อประสานระหว่างเรือนจำและศาล เป็นการแก้ปัญหาที่ต้องนำตัวผู้ต้องขังออกไปขึ้นศาล เพราะแต่ละครั้งเมื่อนำตัวนักโทษออกไปนอกเรือนจำก็จะต้องมีการมาตรกักตัวเพื่อเฝ้าระวังเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นเวลา 14 วันซึ่งทำให้เรือนจำมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น

สมศักดิ์์

นายสมศักดิ์  กล่าวว่าสำหรับมาตรการป้องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเรือนจำพื้นที่เสี่ยงสูงสีแดงเข้มที่เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร จะไม่ให้มีนักโทษทั้งใหม่และเก่าเข้าหรือออก ยกเว้นมีเหตุพิเศษเท่านั้นโดยได้มีการนำ Application ไลน์เข้ามาใช้ในการตรวจเยี่ยมนักโทษ มีเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่สมัครใจใช้จำนวน 66 เรือนจำแล้ว และมีอาสาสมัครจะเพิ่มอีก 53 เรือนจำ ขณะนี้ยังเหลือที่ไม่ได้ใช้อีก 22 เรือนจำส่วนสถานการณ์ผู้ต้องขังวันที่ 24-25 ธันวาคม มีผู้ต้องขังเข้าใหม่จำนวน 235 รายและมีการย้ายเรือนจำ 50 ราย ช่วงนี้ห้ามไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายเรือนจำ

นอกจากการนำ Application LINE เยี่ยมนักโทษมาใช้แล้ว ยังจะให้มีการเพิ่มค่าใช้จ่ายของผู้ต้องขังที่ให้ใช้ได้วันละ 300 บาทต่อคนต่อวัน  สำหรับการพิจารณาการใช้กำไลอีเอ็ม(EM) ให้กลุ่มผู้ที่ได้รับการพักโทษ ลดวันโทษคาดว่าระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2564 จะมีนำกำไลอีเอ็มมาใช้อีก 20,000 หมื่นเครื่องจากที่ใช้ไปแล้ว 10,000 เครื่อง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight