Politics

เราพลาดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว! ‘หญิงหน่อย’ จี้รัฐเร่งควบคุมโควิด

คุณหญิงสุดารัตน์ ลั่นเราพลาดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว หลัง “โควิด” ระบาดสมุทรสาคร แนะ 3 มาตรการที่ต้องรวดเร็ว เร่งด่วน รัดกุม เพื่อรับมือการระบาดรอบใหม่

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานก่อตั้งสถาบันสร้างไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan ถึงสถานการณ์โควิดในขณะนี้ โดยระบุว่า

“เราพลาดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว”
3 มาตรการที่ต้องรวดเร็ว เร่งด่วน รัดกุม
เพื่อรับมือการระบาดโควิด-19 รอบใหม่

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร ที่เวลานี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็นตัวเลขที่พุ่งสูงไปแตะ 600 กว่ารายแล้วนั้น

ดิฉันได้เคยเตือนผ่านเฟซบุ๊กตั้งแต่ 8 กันยายนว่า ให้ระวังและคุมเข้มชายแดนด้านตะวันออกให้เข้มแข็ง เพราะตัวเลข ผู้ติดเชื้อในประเทศอินเดียพุ่งขึ้นสูงมาก ซึ่งจะกระทบถึงประเทศเมียนม่าแน่นอน จึงต้องเข้มงวดในการตรวจตราผู้ใช้แรงงานที่ข้ามแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างจริงจังปรากฏว่าก็เป็นไปตามที่ดิฉันเตือน ในที่สุดการระบาดก็กลับมารุนแรงอีกครั้งจากแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าไทย

ทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความบกพร่องของมาตรการในการป้องกันโรค โดยเฉพาะการตรวจตรา “ชายแดน” ที่มีการตั้งข้อสังเกตและมีข้อมูลว่าเกิดการทุจริตในการจัดเก็บหัวคิว โดยปล่อยให้แรงงานเพื่อนบ้านสามารถข้ามแดนมาได้โดยที่ไม่ต้องมีการตรวจโรค และการกักตัว 14 วัน

คุณหญิงสุดารัตน์

ดิฉันขอบอกอย่างตรงไปตรงมาว่า

“เราพลาดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” จึงขอเสนอ 3 มาตรการเร่งด่วนที่ต้องทำทันที ทำให้เร็วอย่างเข้มข้น และรัดกุมมากที่สุด

1. “ล็อกดาวน์จริงจัง ป้องกันการแพร่ข้ามอำเภอ ข้ามจังหวัด”

ไม่ใช่เพียงการห้ามแรงงานเพื่อนบ้านเคลื่อนย้ายเข้าหรือออกจังหวัดสมุทรสาคร แต่ต้องห้ามประชาชนในพื้นที่เสี่ยงและมีการแพร่ระบาดไม่ให้ออกนอกพื้นที่เด็ดขาด ด้วยการล็อกดาวน์พื้นที่ย่อยในระดับอำเภอไม่ให้การแพร่ระบาดขยายข้ามเขตอำเภอ และป้องกันไม่ให้ขยายข้ามจังหวัด

ต่อมาต้องปูพรมตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งแรงงานและประชาชนที่มีความเสี่ยง เพื่อยับยั้งการแพร่เชื้อให้ได้เร็วที่สุด

ภาครัฐต้องสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น รวมถึงงบประมาณแก่เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหา อย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์

ต้องไม่ปล่อยให้โรงพยาบาลต้องออกมาขอรับบริจาคอย่างในขณะนี้ ทั้งที่รัฐบาลมีงบกลางเป็นแสนล้าน รวมทั้งมีงบประมาณที่กู้มาหลายแสนล้าน

2. “เข้มข้นตรวจตรา เฝ้าระวังชายแดน”

ทั้งแนวชายแดนด้านตะวันตก และแนวชายแดนด้านตะวันออก โดยเฉพาะด้านตะวันตก ต้องให้เข้มข้น รัดกุม กำลังทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ต้องเสริมเข้ามาในพื้นที่และปฏิบัติการตรวจตราให้เข้มข้น ป้องกันการลักลอบเข้าเมือง รวมทั้งต้องเสริมกำลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตามแนวชายแดนในการคัดกรอง ตรวจหาเชื้อ อย่างเต็มกำลัง รวมถึงมีการกักตัวแรงงาน และคนไทย เป็นเวลา 14 วัน ด้วยการเตรียมพร้อมสถานที่กักกัน ก่อนให้ผ่านแดนออกมาสู่ชุมชนภายในประเทศไทย

3. “ปูพรมตรวจเชื้อทุกจังหวัด”

เร่งปูพรมตรวจเชื้อเป็นการเร่งด่วน ในจังหวัดที่มีแรงงานเพื่อนบ้านเข้าไปทำงานเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงในระยะนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องจัดให้มีการปูพรมตรวจหาเชื้อเชิงรุก รวมถึงมีแผนการควบคุมและจัดการพื้นที่ในแต่ละจังหวัดอย่างเคร่งครัด

ดิฉันขอเรียนย้ำอีกครั้งว่า “เราพลาดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK