Politics

‘วอร์รูม’ ฮ่องกงมีคำตอบหัวหน้าเพื่อไทยคนใหม่

1233 horz

ไม่แปลกใจที่ใครๆต่อใครตอนนี้เรียงคิวบินตรงไปฮ่องกง และก็ไม่แปลกใจที่ใครอีกที่ใครหลายคนอยากเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเอาเสียเหลือเกิน  แต่ที่แน่ๆเวลานี้ พรรคเพื่อไทยกำลังตั้ง“วอร์รูม” ใหญ่อยู่ที่ฮ่องกง น่าจะเป็นกองบัญชาการใหญ่ทีเดียว ที่จะตอบโจทย์ทั้งในส่วนของหัวหน้าพรรค รายชื่อผู้สมัครส.ส.เขต และนโยบายพรรคนั่นเอง

การตั้ง“วอร์รูม” ในต่างแดน อาจจะทำให้พรรคคู่แข่งหรือผู้มีอำนาจ ปวดหัวเล่นได้ในเวลานี้ และอาจจะกลายมาเป็นข้อพิพาท หรือ กล่าวหากันอีกยกใหญ่ทำนอง ปล่อยให้คน“ต่างแดน” อย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นผู้มีบทบาททางการเมืองอีกครั้ง แต่ต้องไม่ลืมว่าแท้จริงเขาคือ เจ้าของพรรคมาแต่แรก จะไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวเลยมันจะเป็นไปได้อย่างไร

สิ่งที่น่าสนใจสำหรับพรรคเพื่อไทยเวลานี้ เห็นทีน่าจะเป็น“หัวหน้าพรรค”เสียมากกว่า ที่ดูเหมือนใครๆ ก็อยากจะเป็นกันทั้งนั้น ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เริ่มปล่อยข่าวสกัดขากันเสียแล้ว บางคนอยากเป็นแต่อาจจะไม่ได้รับการพิจารณา แต่บางถูกรับไว้พิจารณาแต่ก็อาจจะไม่อยากเป็น ก็เป็นเรื่องธรรมดาของคน

ชื่อที่หยิบยกขึ้นมาแต่ละชื่อล้วนมีนัยสำคัญทางการเมือง แต่มีอยู่ชื่อหนึ่งที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน แต่เหมือนจะมีน้ำหนัก และมีความน่าจะเป็นได้ระดับหนึ่งในภาวะอย่างนี้นั่นคือ ปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

ชื่อนี้อาจจะไม่ค่อยได้พูดถึงกันบ่อยนัก  แต่ต้องยอมรับในฐานะผู้ที่มากด้วยดีกรี ความรู้ความสามารถในหลายๆด้าน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจที่ดูเหมือนมีความแม่นยำ สามารถวิเคราะห์ได้ทุกแง่มุม เรียกว่าอยู่เบื้องหลังนโยบายเศรษฐกิจของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนมาตลอด งานด้านการต่างประเทศก็ผ่านประสบการณ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนการค้าไทย และงานสำคัญอื่นๆ

หากใครที่ใกล้ชิดและเข้าถึง ปานปรีย์ พหิทธานุกร  จะรู้ว่าเขาคนนี้แหละ!!  ที่คอยช่วยและสนับสนุนแนวนโยบาย หรือจัดทำข้อมูลด้านเศรษฐกิจให้กับพรรคมาตลอดอย่างต่อเนื่อง  เพียงแต่อาจจะไม่ได้คลุกอยู่วงในของพรรคสักเท่าไหร่

หากมองผิวเผินดูเหมือนจะเป็น“คนนอก”ก็ได้ แต่เนื้อแท้แล้วถือว่าช่วยข้อมูลพรรคด้านเศรษฐกิจมายาวนาน ไม่ได้ห่างเหินอะไรกับเพื่อไทยแม้แต่น้อย

สิ่งที่ดูมีคุณค่าสำหรับ ปานปรีย์ พหิทธานุกร กับพรรคเพื่อไทย และน่าจะทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคเห็นคุณค่า แม้จะไม่มีตำแหน่งอะไรในบางช่วง  แต่ก็ไม่ได้เป็นกบฏอะไรกับพรรค หรือเป็นฝ่ายตรงข้าม  แต่การไม่ได้เสนอหน้าในพรรคช่วงที่ผ่านมา อาจมีภารกิจส่วนตัวบางอย่าง

ฉะนั้นสิ่งสำคัญสำหรับพรรคเพื่อไทย หากต้องการเปลี่ยนแปลงให้สมคุณค่ากับที่มีคนรุ่นใหม่ๆ สนใจเข้าร่วมสมัครเป็นสมาชิกกันยกใหญ่ช่วงที่ผ่านมา ฉะนั้นการจะมีหัวหน้าพรรคใหม่สักคน นอกจากเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดี มันน่าจะทำงานกับคนรุ่นใหม่ได้ดี ที่สำคัญน่าจะเป็นตัวช่วยสร้างฐานเสียงให้กับพรรคได้  เพราะฐานเสียงคนรุ่นใหม่นับวันจะมีมากขึ้น และควรเปิดทางให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายพรรคด้วยซ้ำ

สำหรับ ปานปรีย์ พหิทธานุกร ในภาวะอย่างนี้ถือเป็นบุคคลที่มีความพร้อม ความเหมาะสมเป็นอย่างดี หากวิเคราะห์เจาะลึกลงไปวันนี้  เชื่อว่า ปานปรีย์ พหิทธานุกร น่าจะมีความพร้อมในทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น หัวหน้าพรรค  หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ในเวลานี้บอกได้เลย“พร้อมมาก และทำได้” ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากประสบการณ์ ที่โชกโชนทั้งทางการเมือง การบริหารองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ และเชื่อว่าเขาน่าจะเป็นผู้ที่มีความพร้อมมากเวลานี้

งานนี้มีลุ้น หากไม่ใช่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปานปรีย์ พหิทธานุกร ก็มีสิทธิ์ที่จะเป็น“หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ”ได้ไม่ยาก

ความสนใจของคนที่อยากจะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยวันนี้ ต้องยอมรับยังมีอีกหลายคน ที่อยากจะคว้าตำแหน่งนี้ไป  แต่จะได้รับการยอมรับจาก“คนต่างแดน”และสมาชิกพรรคหรือไม่ตรงนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น จาตุรนต์ ฉายแสง นักต่อสู้ทางการเมืองมายาวนาน และเป็นนักประชาธิปไตย พงศ์เทพ เทพกาญจนา ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ในฐานะ มือกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย คนนี้มักมีชื่อพูดถึงเสมอกับตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ แกนนำกลุ่ม กทม. แต่ยังมีข้อด้อยในการยอมรับจาก ส.ส.ภาคอีสาน ภาคเหนือ และกลุ่มของกทม.บางกลุ่มที่อาจจะยังไม่พออกพอใจสักเท่าไหร่

ส่วน ชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุด อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  ก่อนหน้านี้ก็มีชื่ออยู่ในระดับต้นๆ ว่าที่หัวหน้าพรรค แต่สถานการณ์ปัจจุบันความไม่แน่นอนก็มีสูง 

เอาละ..ใครจะเป็นหัวหน้าพรรค หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรค หรือแม้แต่กรรมการบริหารของพรรค ล้วนแล้วแต่ต้องผ่านสายตาของ”คนต่างแดน”ที่จะบอกว่าใช่หรือไม่   ฉะนั้น”วอร์รูม ฮ่องกง” น่าจะมีคำตอบให้ในไม่ช้า

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight