Politics

หยุดอ้าง! คนไทย 93% ลั่น ม็อบทำลายทรัพย์สินส่วนรวม จากภาษีประชาชน อย่าบอกว่าปกป้อง

คนไทย 93% ลั่น ม็อบทำลายทรัพย์สินส่วนรวม ที่มาจากเงินภาษี เลิกอ้างว่าช่วยรักษาภาษีประชาชน โพลเผยคนไทยส่วนใหญ่ยังจงรักภักดี

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ภาษีของราษฎร กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 19 – 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา ผลสำรวจคนไทยส่วนใหญ่ มองว่า ม็อบทำลายทรัพย์สินส่วนรวม ที่มาจากเงินภาษีประชาชน

ม็อบทำลายทรัพย์สินส่วนรวม

เมื่อถามถึง ภาษีของราษฎร พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.3 ระบุ ม็อบราษฎร หยุดอ้างว่าจะรักษาเงินภาษีของราษฎรเพราะเห็นแล้วว่า ได้ทำลายทรัพย์สินส่วนรวม จากเงินภาษีของราษฎร รองลงมาหรือ ร้อยละ 92.9 ระบุ ม็อบราษฎรแท้จริง ต้องช่วยรักษาเงินภาษีของราษฎร ไม่ใช่ทำลายแบบนี้

ขณะที่ ร้อยละ 92.7 ระบุ ม็อบประชาธิปไตย ใจเผด็จการยิ่งกว่าผู้มีอำนาจตอนนี้ เพราะคุกคามผู้อื่น บังคับผู้อื่น ต้องทำตามข้อเรียกร้อง ทำลายผู้เห็นต่าง ถึงจะรุนแรงบานปลาย ไม่สนเงินภาษีประชาชนที่ต้องมาฟื้นฟูหลังการสูญเสียร้อยละ 92.3 ระบุ น่าเคลือบแคลงสงสัยว่า ม็อบทำเพื่อตนเองและพวกพ้อง คนหยิบมือเดียวได้ประโยชน์ด้วยทุนต่างชาติมาทำลายเงินภาษีของราษฎร

ที่น่าพิจารณาคือ ร้อยละ 91.7 ระบุ ม็อบประชาธิปไตย แท้จริง ต้องชุมนุมด้วยความสงบ ช่วยรักษาทรัพย์สิน สมบัติชาติ ไม่ทำลายเงินภาษีประชาชนเหมือนที่หน้ารัฐสภา ร้อยละ 91.6 ระบุ ถ้าเห็นแก่อนาคตของน้อง ๆ พี่ ๆ มาทำลายทรัพย์สินส่วนรวมจากเงินภาษีของราษฎรทำไม

ส่วนร้อยละ 90.6 ระบุ ขบวนการต่างชาติ ร่วม ทุนในไทยหนุนม็อบ ปลุกปั่นทำลายเงินภาษีของราษฎร และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.0 ระบุ เงินภาษีของราษฎรถูกม็อบทำลาย เช่น รถเมล์ รถตู้ตำรวจ รถน้ำแรงดันสูง กล้องวงจรปิดดูแลความปลอดภัยของราษฎร เป็นต้น

โพล

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.8 ระบุ คนไทยส่วนใหญ่ยังจงรักภักดี และต้องการปกป้องรักษาสถาบันหลักของชาติ ในขณะที่ ร้อยละ 93.4 ระบุไม่รัก ก็อย่าทำลาย และร้อยละ 91.6 ระบุ เอือมระอา กับ ม็อบ หยุดได้แล้ว ประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อ จัดการคนทำผิดกฎหมายไม่ต้องเว้น

นอกจากนี้ ยังพบว่า ร้อยละ 92.4 ต้องการให้ผู้มีอำนาจออกมา ทำบ้านเมืองให้ สงบสุข ไม่วุ่นวายโดยเร็ว ในขณะที่ร้อยละ 7.6 ระบุปล่อยไปแบบนี้

เมื่อถามถึงจุดยืนทางการเมืองของประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.6 สนับสนุนรัฐบาล ในขณะที่ ร้อยละ 20.4 ไม่สนับสนุนรัฐบาล และร้อยละ 20.0 เป็นพลังเงียบ ขออยู่ตรงกลาง

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า หลังเกิดเหตุปะทะทำลายทรัพย์สินราชการจากเงินภาษีของราษฎร ส่งผลทำให้กลุ่มพลังเงียบ และผู้เคยไม่สนับสนุนรัฐบาลบางส่วน เทคะแนนมาสนับสนุนรัฐบาลมากขึ้น และผลโพลเรื่อง ภาษีของราษฎร นี้ชี้ให้ประชาชนทั่วไปเห็นอย่างน้อยสามอย่างคือ

ม็อบ หน้า สตช 2 ๒๐๑๑๒๑

1. แกนนำและม็อบผู้เคยประกาศตัวเรื่องปกป้องภาษีของประชาชนแต่กลับมาทำลายเงินภาษีของประชาชนด้วยวิธีที่รุนแรงแบบธรรมดาที่ใคร ๆ ก็ทำได้คือ ทุบทำลายให้เสียหาย และประชาชนต้องมาจ่ายเพิ่ม ในการซ่อมแซมฟื้นฟูแทนที่จะเอาเงินภาษีของประชาชนไปช่วยเรื่องสุขภาพและการศึกษา

2. แกนนำและม็อบเคยเรียกร้องให้หยุดคุกคามประชาชนแต่กลับทำร้ายผู้เห็นต่างจนบาดเจ็บ รวมถึงคุกคาม เบียดเบียนผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน จนทำมาหากินไม่ได้

3. แกนนำและม็อบเรียกร้องประชาธิปไตยแท้จริง แต่กลับไปบังคับข่มขู่และใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย พรรคพวกทำผิดกฎหมายได้ต้องปล่อยตัว ถ้าบ้านเมืองไม่มีกฎหมายแล้วราษฎรจะอยู่กันอย่างไร

เพราะถ้าไปศึกษาประวัติศาสตร์ของประชาธิปไตยในโลกตะวันตกจะพบว่าประเทศเหล่านั้นมีสงครามกลางเมือง มีจลาจลเพราะกลุ่มผลประโยชน์ขัดแย้งกันในหมู่ประชาชน พวกเขาจึงต้องมีระบบการส่งตัวแทนผ่านการเลือกตั้งเข้าสู่สภาและแก้ปัญหาความขัดแย้งกันในสภา

ดังนั้น ถ้าคิดว่าสภาแก้ไม่ได้ก็ต้องยุบสภา เลือกตั้งใหม่ แต่ถ้ายุบสภาเลือกตั้งใหม่ ภายใต้รัฐธรรมนูญปัจจุบัน บางกลุ่มเล็งเห็นว่า จะได้ผลลัพธ์ไม่ถูกใจ ก็ต้องลงประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ถ้าอ้างอีกว่าลงประชามติแก้รัฐธรรมนูญเปลืองงบประมาณ

“ควรคิดต่อว่า ถ้าปมนี้แก้กันไม่ได้ จนเกิดความรุนแรงบานปลายเกิดการสูญเสีย จะทำให้ราษฎรทั้งประเทศ เสียงบประมาณมากกว่าหรือไม่ ทั้งงบประมาณฟื้นฟูประเทศ เยียวยาการสูญเสีย และงบประมาณตามกระบวนการประชาธิปไตยใหม่”ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo