ตำรวจจ่อดำเนินคดีม็อบ 31 คน กรณีชุมนุมบริเวณรัฐสภา และหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คาดวันจันทร์จะได้ความชัดเจน ในเรื่องการใช้ ม.112 เอาผิดผู้ชุมนุม ยันหมายเรียก “นักเรียนเลว” เป็นความผิดตามพ.ร.บ.การชุมนุมเท่านั้น
วันนี้ (20 พ.ย.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน 2 คดี เกี่ยวกับการชุมนุมบริเวณรัฐสภา และหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เมื่อวันที่ 17 และ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อพิสูจน์ทราบระบุตัวบุคคลที่กระทำความผิดทั้ง 2 จุด
เบื้องต้นสามารถระบุตัวบุคคลได้แล้วรวมมากกว่า 30 คน แบ่งเป็นในพื้นที่ สน.บางโพ จากการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา สามารถพิสูจน์ทราบบุคคลได้แล้ว 14 คน ส่วนในพื้นที่สน. ปทุมวัน จากการชุมนุมกันที่หน้าสตช. สามารถระบุตัว และพิสูจน์ทราบบุคคลได้แล้ว 17 คน
พล.ต.ต.ปิยะ ระบุว่า ในจำนวนนี้ มีผู้ที่กระทำความผิดจากการก่อความรุนแรง ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเข้าข่ายความผิดในหลายข้อหา อาทิ
- ความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุม
- สมคบกัน 10 คนเพื่อก่อความวุ่นวาย
- ทำให้เสียทรัพย์
- ทำร้ายร่างกายสาหัส
- พยายามฆ่า
- ความผิดตามพรบ.ความสะอาด
- พ.ร.บ.จราจรทางบก
คาดว่าในสัปดาห์หน้า พนักงานสอบสวน จะเริ่มดำเนินการออกหมายเรียก ผู้ต้องหาทั้งหมดมารับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอนได้
ส่วนประเด็นเรื่องการปะทะกันที่บริเวณหน้ารัฐสภา ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกตัวผู้ได้รับบาดเจ็บมาให้ปากคำได้แล้วรวม 3 คน โดยเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน ที่แยกบางโพ 1 คน และแยกเกียกกาย 2 คน ซึ่งมีทั้งผู้ชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร และผู้ชุมนุมกลุ่มปกป้องสถาบัน
ส่วนลักษณะการก่อเหตุจะเป็นการจงใจก่อเหตุเพื่อหวังเอาชีวิตหรือเป็นการปกป้องคุ้มกันกลุ่มหรือไม่ ยังไม่สามารถเจาะจงประเด็นแรงจูงใจต่างๆ ได้ ต้องอยู่ระหว่างการตรวจสอบแนววิถีกระสุน และพยานหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติม
พล.ต.ต.วิชัย เปิดเผยด้วยว่า การจับกุมผู้ต้องหา จากกลุ่มปกป้องสถาบันที่พกพาอาวุธปืนเข้ามาร่วมชุมนุมด้วยนั้น ขณะนี้ได้นำอาวุธปืนดังกล่าวไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อหาเอกลักษณ์เฉพาะ ของเกลียวกระบอกปืน และเข็มแทงชนวนแล้ว เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับหัวกระสุน และบาดแผลของผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
สำหรับการชุมนุมของกลุ่มนักเรียนเลวในวันพรุ่งนี้ ( 21 พ.ย.) ที่แยกราชประสงค์นั้น รองผบช.น. กล่าวว่า ล่าสุดจากการตรวจสอบยังไม่พบว่า กลุ่มดังกล่าวมีการแจ้งขอชุมนุมมาที่ตำรวจ ซึ่งหากวันนี้ ยังไม่แจ้งขอชุมนุม ก็จะถือว่าเป็นความผิดตามพ.ร.บ.การชุมนุม
เบื้องต้นในการควบคุมดูแล จะเพิ่มกำลังของกองร้อยควบคุมฝูงชน ที่เป็นตำรวจหญิงมากขึ้น เนื่องจากผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ที่มาร่วมชุมนุม เป็นเด็กนักเรียน และเยาวชน เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงกับผู้ชุมนุม
นอกจากนี้ จะมีผู้พิพากษาสมทบของศาลเยาวชน เจ้าหน้าที่สงเคราะห์เด็ก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเด็ก และเยาวชน มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
รองผบช.น. กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ผู้ชุมนุมกลุ่มคณะราษฎร์จะถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น ยืนยันว่า ขณะนี้จะยังไม่มีการแจ้งข้อหาความผิดตามมาตรา 112 เนื่องจากต้องรอการพิจารณากำหนดขอบเขตการแจ้งข้อหา และพฤติการณ์แห่งคดีอย่างชัดเจน จากสตช.
ในวันจันทร์นี้( 23 พ.ย.) พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) จะเรียกประชุมหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อขอบเขตให้ชัดเจนก่อนที่จะดำเนินการบังคับใช้
สำหรับกรณีที่สมาชิกกลุ่มนักเรียนเลว โพสต์ภาพหมายเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่สน.ลุมพินีนั้น ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการเรียกไปเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 แต่เป็นการเรียกไปเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาความผิดตามพ.ร.บ.การชุมนุม ไม่ได้เกี่ยวข้องกับมาตรา 112
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ไหนว่าจะถอยคนละก้าว!! นักเรียนเลวโวยรัฐ ‘มิน-พลอย’ เจอหมายเรียก
- ‘เอ๋ ปารีณา’ โร่ขึ้นโรงพักแจ้งจับ ‘อานนท์’ ปล่อยข่าว ‘บิ๊กตู่’ จ่อลาออก
- ถอนตัว! ม็อบ 25 พฤศจิกา ‘กลุ่มอาชีวะ’ ประกาศชัด ไม่ร่วมสังฆกรรมจาบจ้วงสถาบัน
