Politics

‘ผบ.ทบ.’ ลั่นโอกาสรัฐประหารคือติดลบ! เตือนม็อบอย่าบุกรุกเขตพระราชฐาน

ผบ.ทบ. ปัดตอบเงื่อนไขม็อบ ที่ต้องการให้ทหารทำรัฐประหาร ลั่นโอกาสคือ “ติดลบ” เตือนม็อบอย่าบุกรุกเขตพระราชฐาน ชี้ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง เพราะสถานการณ์เริ่มดีขึ้น

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ปฎิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าว ถึง สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มราษฎร ที่เป็นเงื่อนไขให้บางฝ่าย ออกมาเรียกร้องให้กองทัพ ทำการรัฐประหาร โดยขอให้ผู้สื่อข่าวสนใจข่าวภารกิจงานด้านการทหาร

เมื่อถามโอกาสการรัฐประหาร ยังเป็นศูนย์อีกหรือไม่นั้น พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า “ติดลบ”

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้ยังไม่มีทางออก พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวย้ำว่า “มี” ซึ่งตนได้ย้ำไว้เสมอว่า การเมืองก็ต้องแก้ด้วยการเมือง หากทุกคนมีสติ และมองกระจกให้รอบด้าน ว่า ควรจะทำอะไร

ผบ.ทบ.

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดูแลอะไรบ้าง พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ตนก็ได้รับคำสั่งว่า ให้ดูแลตามแนวชายแดนโดยเฉพาะการป้องกันเรื่องโควิด ตนก็รับคำสั่งมา ตามภารกิจหน้าที่ของตน

เมื่อถามว่า ในสถานการณ์อากาศนี้บทบาทของทหารเป็นอย่างไร พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า บทบาทของทหาร ก็เป็นไปตามที่ได้ระบุไว้ ทั้งเรื่องงานชายแดนการดูแลประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน

สำหรับเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มราษฎร เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนนั้น ผบ.ทบ. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่ไป ไม่ได้ไปในลักษณะการควบคุมฝูงชน เพราะอยู่นอกเครื่องแบบ อยู่ด้านหลังแนวตำรวจ และในฐานะของฝ่ายความมั่นคง

ทั้งนี้ สถานการณ์เมื่อวานมุ่งไปสู่สำนักพระราชวัง ศาลหลักเมือง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ วัดพระแก้ว ซึ่งไม่มีใครรับประกันว่า จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าหลุดจากแนวตำรวจไป ทหารก็ต้องป้องกัน ที่ผ่านมามีการคุยกันว่า จะชุมนุมด้วย ความสงบ สันติ แม้มีการกระทำผิด พรบ. การชุมนุม แต่ตำรวจประนีประนอม ไม่ได้ดำเนินคดี

ผบ.ทบ. ย้ำว่า ทหารอยู่บริเวณหลังตำรวจ หากมีมวลชนหลุดแนวตำรวจออกมา ก็จะเป็นหน้าที่ของทหาร ที่จะต้องป้องกันเพราะในส่วนของการ์ด ที่ดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม ก็คุยกันแล้วว่า เป็นการชุมนุมอย่างสงบและสันติ เราพยายามไม่ให้เกิดความรุนแรง ทำกลุ่มผู้ชุมนุมและความมั่นคงได้คุยกันมาตลอด ถึงแม้การชุมนุมดังกล่าว จะผิด พรบ.การชุมนุม แต่เจ้าหน้าที่ก็ประนีประนอม ไม่ได้ดำเนินคดีทั้งหมด ใครที่ทำผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินการเฉพาะรายบุคคล

ในส่วนของการ์ดที่ดูแลรักษาความปลอดภัย ก็ต้องยอมรับว่า เขาพยายาม เจรจากับตำรวจ ในสิ่งที่เขาอยากจะกระทำ และ ยืนยันในเรื่องของการชุมนุมโดยสงบและสันติ

ผบ.ทบ.
พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก

แต่ในขณะเดียวกันต้องยอมรับว่า มีกลุ่มคน ซึ่งตนได้ย้ำไว้เสมอว่า อย่าให้เกิดความรุนแรง ต้องควบคุมให้ได้ ถ้าเกิดความรุนแรงเมื่อไหร่ประเทศชาติก็จะถอยลงไปอีกที เมื่อวานหากดูจากคลิป หรือ ข้อมูลต่างๆ ทหารที่ออกไปนั้น ก็คือช่วยไปดูแลเจ้าหน้าที่อยู่ข้างหลัง หากมีอะไรขึ้นมา ทหารจะได้ช่วยตำรวจ และ ประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ทหารตรงนั้นกลับได้รับบาดเจ็บเสียเอง และ ที่ได้รับบาดเจ็บ ก็เพราะว่า มีกลุ่มที่ต้องการสร้างความรุนแรง

“หากเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยไป พวกที่ต้องการสร้างความรุนแรง ก็เข้าไปได้ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ได้สกรีนคน ซึ่งเราก็เห็นแล้วในคลิปว่าเขาเตรียม สิ่งของที่มีลักษณะคล้ายกับประทัด ที่มีไฟจุด ขว้างข้ามรถบัส ผมถามว่า หากปล่อยไป จะโดยเจตนา หรือไม่เจตนา หากปาเข้าไปในศาลหลักเมือง วัดพระแก้ว เกิดความเสียหาย ใครจะออกมายืนรับผิดชอบ แล้วความรู้สึกของ คนทั้งประเทศจะเป็นอย่างไร” พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าว

พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวอีกว่า นี่คือสิ่งที่เราต้องช่วยกัน ในส่วนของเจ้าหน้าที่ เขาพร้อมอยู่แล้ว เพราะอุทิศตนและยอมรับอยู่แล้ว แต่อย่าไปเอาประเด็นนั้น มาเป็นความขัดแย้ง ขอให้มองว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อ ส่วนรวมและประเทศชาติ จะเกิดอะไรขึ้น หากตำรวจ ไม่ทำตรงนั้น เพียงแต่ว่าสุดท้ายแล้ว ถือเป็นเรื่องดีที่สุดท้ายแล้ว สามารถเจรจากันได้ว่าทำได้แค่ไหน

เมื่อถามว่า จะสามารถยอมรับได้ขนาดไหน หากมีการบุกรุกพื้นที่เขตพระราชฐานในโอกาสหน้า พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า เขตพระราชฐาน มีลักษณะคล้ายกับบ้าน เราก็ไม่ต้องการให้ใครมาบุกรุก ทุกคนก็รักบ้านตัวเอง และครอบครัวตัวเอง สิ่งที่ตนพยายามก็คือ อย่าให้เกิดความรุนแรง เพราะสถานการณ์ตอนนี้เรากำลังดีขึ้น จากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ที่ประเทศไทยทำได้ดี และ ที่ตนได้ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมกองกำลังชายแดน ก็คือ ไปเน้นย้ำเรื่องนี้ไม่ให้การ์ดตก

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo