Politics

ชงแก้ระเบียบ ‘ทรงผมนักเรียน’ ไว้สั้นหรือยาวก็ได้ แต่ยังห้ามดัดและย้อมสี

ชง รมว.ศึกษาฯ แก้ระเบียบ “ทรงผมนักเรียน” ไว้สั้นหรือยาวก็ได้ แต่ยังห้ามย้อมหรือดัดผม ด้านครูห้ามลงโทษรุนแรงถึงขั้นกล้อนผมเด็ก

นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาข้อร้องเรียนของนักเรียนนักศึกษา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพิจารณาข้อเรียกร้องของนักเรียนและนักศึกษา วันนี้ (6 พ.ย. 63) ว่า

ทรงผมนักเรียน

ที่ประชุมฯ พิจารณาร่างระเบียบ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่าการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ…. โดยข้อเสนอแนะปรับแก้ดังนี้ ปรับแก้บทนำ หรือในส่วนของการปรารภ เป็นการปรับแก้ระเบียบการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 ให้มีความเหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบัน และสอดคล้องกับหลักการสิทธิมนุษยชนการคุ้มครองศักดิ์ความเป็นมนุษย์ การมีส่วนร่วม รวมทั้งการป้องกันให้มีการเลือกปฏิบัติไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ เห็นชอบแก้ไขระเบียบในข้อ 4 ดังนี้

นักเรียนจะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาวให้เป็นไปตามความเหมาะสมและรวบให้เรียบร้อย เพื่อสะท้อนความหลากหลายทางเพศและไม่ให้มีปัญหาในทางปฏิบัติ ส่วนการดัดผม ย้อมสีผมให้ต่างไปจากเดิม ไว้หนวดหรือไว้เครา ยังคงเป็นข้อห้ามตามเดิม เนื่องเห็นว่าอาจทำให้เสียสมาธิในการเรียน

ขณะเดียวกันยังแก้ไขระเบียบข้อ 7 แก้ไข เป็นภายใต้ข้อบังคับข้อ 4 ให้สถานศึกษาวางระเบียบการไว้ ทรงผมนักเรียน ได้เท่าที่ไม่ขัดแย้งกับระเบียบนี้ โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาหรือคณะกรรมการบริหารโรงเรียนเอกชนแล้วแต่กรณี ก่อนดำเนินการในวรรคหนึ่งให้สถานศึกษาดำเนินการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น ของนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา และเครือข่ายผู้ปกครอง รวมทั้งเผยแพร่ผลรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวไว้ในสถานศึกษาหรือระบบสารสนเทศของสถานศึกษา

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีข้อเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำหนังสือทำความเข้าใจไปยังโรงเรียน ดังนี้ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของนักเรียน โดยใช้กลไกของสภานักเรียน เช่น ให้ผู้แทนสภานักเรียนเข้าร่วมสังเกตการณ์ในการประชุมของคณะกรรมการสถานศึกษา ตามข้อ 7 กรณีนักเรียนทำไม่ถูกตามระเบียบ การลงโทษให้คำนึงถึงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 และกฎหมายคุ้มครองเด็ก ห้ามลงโทษรุนแรงที่เกิดกว่าระเบียบดังกล่าว เช่น การกล้อนผม เป็นต้น

S 78774287

นายสมเกียรติ กล่าวต่ออีกว่า ที่ประชุมยังหารือแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องเครื่องแบบนักเรียน ตามข้อเรียกร้องของ นักเรียน ทั้งให้แต่งกายตามเพศสภาพ ยกเลิกการแต่งเครื่องแบบนักเรียน และเครื่องแบบลูกเสือ ยุวกาชาด เนตรนารี ซึ่งกรณีนี้มี พ.ร.บ.เครื่องแบบนักเรียน พ.ศ.2551 และระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2551 กำกับอยู่

ทางคณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า ระเบียบที่มีอยู่มีความยืดหยุ่นและสามารถประยุกต์ใช้ได้ตามความเหมาะสม เพียงแต่บางโรงเรียนอาจยังไม่มีความเข้าใจ

ดังนั้น ที่ประชุมจะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำหนังสือซักซ้อมความเข้าใจไปยังโรงเรียนต่างๆ ขอให้มีความยืดหยุ่น โดยใช้ข้อ 15 ที่กำหนดว่า สถานศึกษาใดจะกำหนดให้นักเรียนแต่เครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด นักศึกษาวิชาทหารหรือแต่งชุดพื้นเมือง ชุดไทย ชุดลำลอง ชุดฝึกงาน ชุดกีฬา ชุดนาฏศิลป์หรือชุดอื่น ๆ แทนเครื่องแบบนักเรียนตามระเบียบนี้ได้ ในวันใด ให้เป็นไปตามที่สถานศึกษากำหนด โดยคำนึงถึงความประหยัดเหมาะสม

และ 16 ที่กำหนดว่า ในกรณีมีเหตุจำเห็นหรือมีเหตุพิเศษให้สถานศึกษาพิจารณายกเว้นหรือผ่อนผันการแต่งกายเครื่องแบบนักเรียนได้ตามความเหมาะสม และหากจะออกระเบียบใดเพิ่มเติมให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องก่อน

fig 11 05 2019 04 20 51

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ มีมติเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งคณะทำงาน 3 ชุด ดังนี้

  • คณะทำงานด้านการละเมิด การกระทำความรุนแรง และความปลอดภัยในสถานศึกษา
  • คณะทำงานด้านความล้าหลังของสถานศึกษาที่ประทบต่อนักเรียน นักศึกษา
  • คณะทำงานด้านการแสดงออกทางการเมืองในสถานศึกษา

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะไปดูรายละเอียดก่อนนำข้อสรุปทั้งหมดเสนอให้นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พิจารณาเห็นชอบภายในสัปดาห์หน้า

ก่อนหน้านี้ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยกรณีคณะกรรมการพิจารณาข้อเรียกร้องของนักเรียน และนักศึกษามีมติแก้ไขระเบียบกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการ  เรื่อง การไว้ทรงผมของนักเรียน ปี 2563 ในข้อ 7 แก้เป็น โรงเรียนสามารถออกระเบียบทรงผมของ นักเรียน ที่มีความเฉพาะเจาะจงได้ แต่ระเบียบดังกล่าวจะใช้ได้ ต้องผ่านกระบวนการ การมีส่วนร่วมของนักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนท้องถิ่นด้วย

ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ทรงผมนักเรียน

นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า การออกระเบียบ ทรงผมนักเรียน ที่มีความเฉพาะเจาะจงนั้น จะต้องยึดเรื่องสิทธิของนักเรียนเป็นตัวตั้งและคำนึกถึงความหลากหลายทางเพศสภาพของนักเรียนด้วย พร้อมทั้งออกแนวทางปฏิบัติ เพื่อแนะนำโรงเรียน พร้อมทั้งให้ตัวอย่างที่ดีกับโรงเรียนให้ดำเนินการตาม

ส่วนการลงโทษที่ให้ทำตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ คือ ห้ามกล้อนผม หรือทำให้เด็กเกิดความอับอายนั้น ตนยังไม่ได้รับทราบเรื่องดังกล่าว ขอดูรายละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ การแก้ไขเรื่องต่าง ๆ ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่ตามมาด้วย ส่วนเรื่องการลงโทษหรือการคุกคามเด็ก ตนเห็นด้วยว่า ไม่ควรจะมีการลงโทษในลักษณะที่คุกคามเด็ก

“ผมได้เน้นย้ำว่ากฎระเบียบต้องมีความชัดเจน ไม่อยากให้เกิดการตีความ เพราะเรื่องทรงผมถือเป็นเรื่องที่คาราคาซังมานาน อยากให้แก้ไขให้จบเป็นเรื่อง ๆ เพื่อไม่ต้องกลับมานั่งแก้ไขกันอีก” นายณัฏฐพล กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo