เอกชัย หงส์กังวาน เข้าแจ้งความดำเนินคดี “ผบ.ตร.-ผบช.น.” กรณีขบวนเสด็จ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา เชื่อจงใจใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
วันนี้ (5 พ.ย.)ที่สถานีตำรวจนครบาลลาดพร้าว นาย เอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง เข้าแจ้งความดำเนินคดี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ความผิดตามมาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายเอกชัย กล่าวถึงวันที่เกิดเหตุว่า ขณะที่ผู้ชุมนุมราษฎรกลุ่มใหญ่อยู่บริเวณนางเลิ้ง ได้มีมวลชนบางส่วน รวมถึง ตนเอง อยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งไม่มีใครทราบว่าจะมีขบวนเสด็จผ่านตรงนั้น เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ประกาศแจ้งเตือนล่วงหน้า แม้ว่า ผบช.น.ดูแลความปลอดภัยอยู่บริเวณดังกล่าวก็ตาม
ดังนั้น ตนเชื่อว่า เป็นการจงใจเจตนาให้ขบวนเสด็จผ่านผู้ชุมนุม เพื่อนำไปสู่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ที่อ้างว่ากระทบต่อขบวนเสด็จ ในฐานะ ผบ.ตร.และผบช.น. ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบได้ วันนี้ จึงเข้ามาแจ้งความตามความผิด ม.157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
กรณีดังกล่าว นายเอกชัย และผู้ชุมนุมราษฎรอีก 2 ราย ถูกดำเนินคดี ม.110 ฐานประทุษร้ายต่อเสรีภาพของพระราชินี จากเหตุการณ์ขบวนเสด็จ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา และถูกคุมขังกว่า 10 วัน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา ขบวนเสด็จดังกล่าวเป็นของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ได้เสด็จพระราชดำเนินผ่านจุด ที่มีการชุมของกลุ่ม คณะราษฎร บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ถนนพิษณุโลก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าดูแลความปลอดภัยตลอดแนวถนน
กลุ่มประชาชนด้านหลังแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ พากันชูสามนิ้ว และตะโกนถ้อยคำเรียกร้องให้ปล่อยผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมไป บางคนตะโกนว่า “ชาติ ศาสนา ประชาชน” ขณะที่ขบวนเสด็จเคลื่อนผ่าน
ในเวลาต่อมา นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการกับผู้ที่ขัดขวางขบวนเสด็จพระราชดำเนิน และผู้ที่กระทำอื่นใดในลักษณะที่เป็นการหมิ่นสถาบันฯ โดยจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดโดยไม่ละเว้น
ทั้งนี้ ถือว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นในวันที่ 14 ตุลาคม “เป็นการชุมนุมโดยไม่สงบ เป็นบ่อนทำลายการบริหารราชการแผ่นดิน และความสงบสุขของประชาชน”
ทางด้าน นายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบคณะราษฎร63 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า เหตุการณ์รถขบวนเสด็จฯที่ตำรวจตั้งใจพาวิ่งเข้าหาผู้ชุมนุม คือการวางยาให้เกิดภาพผู้ชุมนุมขวางขบวน ทั้งที่ความจริงตำรวจจงใจพาขบวนเสด็จไปเอง
ก่อนหน้าที่จะโดนจับนั้น นายเอกชัยเคยให้สัมภาษณ์บีบีซีไทย หลังรับทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่า เขาถูกออกหมายจับ โดยเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าเ ขายืนอยู่กับผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งบริเวณ ถนนพิษณุโลก ใกล้กับทำเนียบรัฐบาล โดยเป็นกลุ่มที่เดินล่วงหน้ามาก่อน ขณะที่รถปราศรัยของแกนนำ และผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ยังถูกสกัดกั้นอยู่ที่แยกนางเลิ้ง
“ตรงที่ผมยืนอยู่มีตำรวจตระเวนชายแดนประจำการอยู่ราว 2 กองร้อย มายืนอยู่เฉย ๆ สักพักหนึ่งก็เริ่มตั้งแถวคล้องแขนกันแล้วเดินมาจุดที่กลุ่มผู้ชุมนุมยืนอยู่ ผมคิดว่าเขาจะมาทำอะไรพวกเราก็เลยลงไปดันกับตำรวจ เพราะกลัวเขาจะมาทำอะไรเรา” นายเอกชัยกล่าว
เขายืนยันว่าตลอดช่วงเวลาที่ยืนอยู่ตรงนั้น เจ้าหน้าที่ไม่ได้ประกาศให้ประชาชนทราบเลยว่าจะมีขบวนเสด็จผ่านเส้นทางนี้
“ข้อหาประทุษร้ายพระราชินีเป็นข้อหาที่รุนแรงมาก ไม่มีใครคิดประทุษร้าย และไม่มีใครรู้ว่าจะมีขบวนเสด็จฯ ผ่าน ผมรู้สึกว่านี่ไม่ยุติธรรม เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งก่อนเลย ถ้าประกาศก่อน (ว่าจะมีขบวนเสด็จฯ) แล้วมีคนเข้าไปขวางก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง” เขาระบุ
แม้โดนดำเนินคดีมาหลายครั้ง ไม่ต่ำกว่า 8 คดี จากการเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ทั้งข้อหาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งขณะนี้คดีสิ้นสุดไปแล้ว 3 คดี แต่เขายอมรับว่า รู้สึกกังวล เพราะความรุนแรงของข้อหา
ทั้งนี้ มาตรา 110 วรรค 2 ผู้ใดกระทำการประทุษร้ายต่อพระองค์ หรือเสรีภาพของพระราชินีหรือรัชทายาท หรือต่อร่างกายหรือเสรีภาพของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบหกปีถึงยี่สิบปี ผู้ใดพยายามกระทำการเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ด่านสกัดม็อบแตก! บุกประชิดทำเนียบแล้ว ตำรวจถอยเลี่ยงปะทะ
- ม็อบ 14 ตุลา เปิดประตู ‘อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย’ ถึงกับผงะเมื่อเจอสิ่งนี้.
- ‘สหภาพฯ ขสมก.’ ไม่เห็นด้วย ใช้ ‘รถเมล์’ ปิดถนนขวางผู้ชุมนุม