Politics

‘บิ๊กตู่’ ขอ ‘เอกอัครราชทูตสโลวัก’ เชื่อมั่นเสถียรภาพรัฐบาลไทย

“นายกรัฐมนตรี” แจง “เอกอัครราชทูตสโลวัก” ยันสามารถดูแลจัดการสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศได้ พร้อมขอเชื่อมั่นเสถียรภาพรัฐบาลไทย

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสตะนิสลาฟ อะปิลา (H.E. Mr. Stanislav Opiela) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสโลวักประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า

นายก291011

นายกรัฐมนตรี ชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับ สาธารณรัฐสโลวัก ที่มีความเป็นมิตรที่ดีต่อกันมายาวนานกว่า 40 ปี พร้อมทั้งขอบคุณเอกอัครราชทูตฯ ที่มีบทบาทสำคัญ ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกัน ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง เป็นผลให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีของทั้งสองประเทศราบรื่น

อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีหวังว่า ทั้งสองประเทศจะเพิ่มพูนพลวัต และความร่วมมือ ในความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน

เอกอัครราชทูตฯ ขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่สละเวลาให้เข้าพบ ยินดีที่ได้ดำรงตำแหน่งในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่สวยงามน่าอยู่ ได้รับประสบการณ์ที่ดีตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ดำรงตำแหน่ง พร้อมทั้งชื่นชมที่ไทยกับสาธารณรัฐสโลวัก มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน และเห็นพ้องว่าทั้งสองประเทศควรกระชับความร่วมมือระหว่างกันให้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเป็นวิกฤตที่ท้าทายในระดับโลก

IMG 20201029120600000000

ด้านนายกรัฐมนตรี ได้ให้กำลังใจและอวยพรให้สาธารณรัฐสโลวักควบคุมสถานการณ์โควิด-19 และดูแลประชาชนให้ปลอดภัย

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นสำคัญอื่น ๆ ร่วมกัน ด้านการค้าการลงทุน ทั้งสองฝ่ายเห็นว่ายังมีโอกาส และช่องทางในการขยายการค้าการลงทุนระหว่างกันได้อีกมาก นายกรัฐมนตรี ขอให้สโลวักช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ภาคเอกชนไทยที่เข้าไปลงทุน พร้อมทั้งเชิญชวนให้ภาคเอกชนสโลวักเข้ามาลงทุนในไทย โดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก

IMG 20201029120554000000

ซึ่งนักลงทุนสโลวักสามารถใช้ประโยชน์จากทำเลที่ตั้งของไทยในการเป็นฐานการผลิตและกระจายสินค้าสู่ตลาดอาเซียนได้ นอกจากนี้ ทั้งสองเห็นพ้องส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกันให้มากขึ้น ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยว่า ขอให้เชื่อมั่นในเสถียรภาพของรัฐบาล ยังสามารถดูแล จัดการสถานการณ์ได้ และได้ใช้โอกาสนี้ ชื่นชมการทำงานของรัฐบาลสโลวักในการบริหารจัดการประเทศ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo