พรรคร่วมฝ่ายค้าน ออกแถลงการณ์ จี้รัฐบาลยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ทหารกลับเข้าที่ตั้ง ปล่อยตัวผู้ชุมนุม เคารพในสิทธิ เสรีภาพของประชาชน ยุติการคุกคามผู้ชุมนุมทุกรูปแบบ พร้อมเปิดสภาฯ วิสามัญ ถกแก้ปัญหา
วันนี้ (15 ต.ค.) พรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคพลังปวงชนไทย และพรรคเพื่อชาติ ออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอให้เคารพในสิทธิ เสรีภาพของประชาชน และยุติการคุกคามผู้ชุมนุมทุกรูปแบบ โดยมีเนื้อหาว่า
ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 11 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรง และมีการออกข้อกำหนดจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนหลายประการ โดยอ้างเหตุจากการชุมนุมของกลุ่ม “คณะราษฎร 2563” เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563 นั้น
พรรคร่วมฝ่ายค้านต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ไม่มีเหตุผลตามกฎหมาย ที่จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงได้ และข้อกำหนดจำกัดสิทธิต่างๆ ที่ออกตามมานั้น ไม่เข้าข้อยกเว้นที่ได้อนุญาตไว้ตามรัฐธรรมนูญ ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง
แต่เป็นการใช้กฎหมาย เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมือง ในการจำกัดการแสดงออก ซึ่งความคิดเห็นทางการเมือง และการใช้เสรีภาพ ในการชุมนุมโดยสงบ และปราศจากอาวุธของประชาชน ที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ และกติการะหว่างประเทศข้างต้น อันเป็นการบิดเบือนการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อประโยชน์ของตนโดยอ้างความสงบเรียบร้อยเป็นเกราะบังหน้าเท่านั้น
พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงขอแถลงการณ์ร่วมกันเพื่อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ของรัฐดังนี้
1. นายกรัฐมนตรีต้องยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงโดยทันที เพราะการกระทำดังกล่าวไม่ต่างกับการยึดอำนาจ และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
2. รัฐบาล และเจ้าหน้าที่รัฐ จะต้องให้หลักประกันในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ของประชาชน ในการแสดงออก ซึ่งความคิดเห็นทางการเมือง การชุมนุมโดยสงบ และปราศจากอาวุธ เสรีภาพในการเสนอข่าวสาร และการส่งข้อมูลซึ่งกัน ต้องไม่กระทำการใดอันเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพดังกล่าว ดังเช่นการสลายการชุมนุมเมื่อเช้าวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา
3. ขณะนี้เป็นที่ปรากฏชัดว่า ได้มีการส่งกำลังทหารจำนวนมาก เข้ามาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเข้าควบคุมสถานที่ต่างๆ เช่น อาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นที่ทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ
การใช้กำลังทหารจำนวนมากดังกล่าวไม่เหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นจริง การกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ทำลายความเชื่อมั่นของประเทศต่อสังคมโลก และอาจนำมาซึ่งเหตุการณ์รุนแรงภายในอนาคตอันใกล้ได้
อีกทั้งเป็นการฉวยโอกาสใช้อำนาจพิเศษในช่วงปิดสมัยประชุมรัฐสภา ทำให้ระบบรัฐสภาไม่สามารถตรวจสอบการกระทำดังกล่าวได้ จึงขอให้นำกองกำลังทั้งหมดกลับเข้าที่ตั้ง และให้หน้าที่การรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามปกติ
4. พรรคร่วมฝ่ายค้านขอคัดค้าน และต่อต้านการใช้กำลัง และความรุนแรงทุกรูปแบบ กับนักศึกษาและประชาชน ขณะเดียวกัน ก็ไม่สนับสนุนให้มีการชุมนุมที่ใช้ความรุนแรงเช่นกัน และจะขอใช้สิทธิในการประกันตัวนักศึกษา และประชาชนผู้ถูกจับกุมทุกคน
5. พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ติดตามการชุมนุม ของกลุ่มนักศึกษาและประชาชนมาโดยตลอด เห็นร่วมกันว่า การใช้สิทธิเสรีภาพดังกล่าว ยังอยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ จึงไม่มีเหตุผลใด ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ จะใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม และออกข้อห้ามมิให้มีการชุมนุม
6. ขอให้มีการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญโดยเร็ว เพื่อจะได้นำปัญหาต่างๆ เข้าแก้ไข ผ่านระบบรัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะเฝ้าติดตามการใช้อำนาจของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างใกล้ชิด โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การกระทำของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ จะไม่เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ที่จะทำให้นำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงในอนาคต
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไมค์’ ลั่น ไม่ถอย ‘ยึดราชประสงค์’ ขอเป็นหมาจนตรอก สู้จนตัวตาย
- ประมวลภาพ ‘ไมค์ ระยอง’ มาแล้ว ยึดราชประสงค์ นำม็อบชุมนุม
- ผบ.ตร. ตั้ง ‘พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์’ คุมชุมนุมสาธารณะ รอบทำเนียบ