Politics

‘อย่าทำตัวเป็นศาล’ จี้กกต.ส่ง 31 พรรคกู้เงิน ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

“ศรีสุวรรณ” โวย เลขา กกต. ทำตัวเป็นศาล ยุติสอบ 31 พรรคการเมืองกู้เงิน จี้ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เห็นชอบให้มีการยุติเรื่องการตรวจสอบว่าพรรคการเมืองจำนวน 31 พรรคการเมือง มีการกู้ยืมเงินมาใช้ในกิจการของพรรคการเมือง เป็นการกระทำหรือนิติกรรมที่ขัดหรือยังต่อมาตรา 62 ประกอบมาตรา 72 ของ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง

ศรี 3

เช่นเดียวกับที่มีการยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยอ้างว่า ทุกพรรคมีสิทธิกู้ยืนเงินหรือยืมเงินทดรองจ่ายจากหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคฯ ไม่เกิน 10 ล้านบาท ต่อคน ต่อพรรค ต่อปี ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไว้ในคดียุบพรรคอนาคตใหม่ จึงถือว่าการกู้ยืมเงินของทั้ง 31 พรรค ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายนั้น

การอ้างคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยไว้ในคำวินิจฉัยที่ 5/2563 ลงวันที่ 21 ก.พ.63 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยชัดแจ้งว่า “การดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง ต้องอาศัยรายได้ของพรรคการเมือง ซึ่งกฎหมายกำหนดแหล่งที่มาไว้ ตามพรป. ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ม.62

ดังนั้น เงินส่วนใดที่พรรคการเมืองนำมาใช้จ่าย ในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองซึ่งมิได้มีแหล่งที่มาและวิธีการได้มาตามที่กฎหมายระบุไว้ ย่อมถือว่า เป็นเงินที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยบทบัญญัติ ม.62 ถึงแม้ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มิได้บัญญัติห้ามการกู้ยืมสำหรับพรรคการเมืองไว้โดยชัดเจน แต่ก็ไม่ได้ รับรองว่าให้กระทำได้

ประกอบกับพรรคการเมืองมีสถานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมืองซึ่งเป็นกฎหมายมหาชน และเงินกู้ยืมแม้มิได้เป็นรายได้แต่ก็เป็นรายรับและ เป็นเงินทางการเมือง การดำเนินการเกี่ยวกับการได้มาและการใช้จ่ายเงินเพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมือง จึงกระทำได้ภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น

คำวินิจฉัยดังกล่าวชี้ชัดว่า การกู้ยืมเงินมาใช้ในกิจการของพรรคการเมือง เป็นการกระทำหรือนิติกรรมที่ไม่ปรากฎใน ม. 62 ประกอบมาตรา 72 ของ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ชี้ชัดถึงขนาดนี้แล้ว แต่เหตุใดนายทะเบียนพรรคการเมืองจึงรีบตัดตอน ไม่นำความดังกล่าวรายงานให้ กกต. เพื่อมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้เสร็จสิ้นกระบวนความ ตามครรลองของกฎหมาย เหตุใดจึงกล้าที่จะวินิจฉัยเอาเสียเอง เช่นนี้จะถือว่าชอบด้วยกฎหมายได้อย่างไร

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำเหตุผลดังกล่าว ไปยื่นให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทบทวนความเห็นและให้ 7 กกต.มีมติส่งกรณีเงินกู้ของ 31 พรรคการเมืองให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยอย่าทำตนเป็นศาลเสียเอง ไม่เช่นนั้นอาจเป็นการเลือกปฏิบัติได้ โดยสมาคมฯจะไปยื่นคำร้องในวันพุธที่ 23 ก.ย.63 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการ อาคาร B นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo