Politics

สปสช.เคลียร์! เลิกสัญญาบัตรทอง ’64 คลินิก-รพ.เอกชน’ เฉพาะในกทม. ย้ำสิทธิบัตรทองยังอยู่

เลขาธิการ สปสช.แจงยกเลิกสัญญา “64 คลินิก-รพ.เอกชน” เฉพาะพื้นที่ กทม.เท่านั้น ได้รับผลกระทบ  800,000 ราย ส่วนต่างจังหวัดไม่ได้รับผลกระทบ สิทธิบัตรทองยังอยู่เหมือนเดิม 

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีที่ สปสช.ยกเลิกสัญญาการให้บริการสาธารณสุข ของคลินิกชุมชนอบอุ่น และโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่กระทำผิดสัญญาให้บริการสาธารณสุขในการเบิกจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง จำนวน 64 แห่ง มีผลตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2563 เป็นต้นไป “การบอกเลิกสัญญาดังกล่าวส่งผลให้ประชาชนที่มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง ของคลินิกชุมชนอบอุ่นและ รพ. ทั้ง 64 แห่งในพื้นที่ กทม. ได้รับผลกระทบประมาณ 800,000 ราย”

ทั้งนี้ สปสช.ขอย้ำว่าสิทธิบัตรทอง 30 บาท ของประชาชนกลุ่มดังกล่าวยังคงอยู่ และการยกเลิกสัญญาเกิดขึ้นเฉพาะในพื้นที่ กทม.เท่านั้น ส่วนในต่างจังหวัดจะไม่ได้รับผลกระทบ ในช่วงที่ สปสช.กำลังดำเนินการจัดหาหน่วยบริการแห่งใหม่ทดแทน จึงมีแนวทางให้กับประชาชนในการเข้ารับบริการสาธารณสุข ประกอบด้วย กรณีเจ็บป่วยทั่วไป หรือมีแผนการรักษาพยาบาลกับหน่วยบริการทั้ง 64 แห่ง สามารถเข้ารับบริการรักษาพยาบาลต่อเนื่องได้ที่หน่วยบริการภาครัฐและเอกชน ได้แก่ รพ.ของรัฐ และเอกชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ได้โดยไม่ต้องใช้หนังสือส่งตัว” นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว

ยกเลิกสัญญา 01 0

นอกจากนี้ สามารถดูรายชื่อหน่วยบริการในพื้นที่ กทม. ได้ที่ https://bkk.nhso.go.th/ucs-around-me/ สำหรับหน่วยบริการที่ประชาชนสิทธิบัตรทองกลุ่มดังกล่าวเข้าไปรักษานั้น สปสช.ได้ทำหนังสือแจ้งหน่วยบริการทุกแห่งว่า ให้บริการสาธารณสุขและขอรับค่าใช้จ่ายเป็นกรณีผู้ป่วยสิทธิว่างมาที่ สปสช. โดยไม่ต้องเก็บเงินจากผู้ป่วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bkk.nhso.go.th/main/shownews.php?newsid=4666 และสำหรับกรณีผู้ป่วยที่มีหนังสือส่งตัวเดิมเพื่อไปรักษาที่ รพ.รับส่งต่อที่ถูกยกเลิกสัญญาก็สามารถเข้ารับบริการที่ รพ. ของรัฐใกล้บ้านได้โดยไม่ต้องใช้หนังสือส่งตัว

นพ.ศักดิ์ชัย  กล่าวว่ากรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ประชาชนสามารถเข้ารับบริการรักษาพยาบาลได้ที่หน่วยบริการภาครัฐและและเอกชน ได้แก่ รพ.ของรัฐ ศูนย์บริการสาธารณสุข และ รพ.เอกชนที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ หากเป็นภาวะเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติเข้าเกณฑ์เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติมีสิทธิทุกที่ หรือ UCEP (Universal Coverage for Emergency Patients) ก็สามารถเข้ารับบริการที่ รพ.ใดก็ได้ใกล้บ้าน

สปสช.1

กรณีผู้ป่วยที่ยังนอนรักษาตัวใน รพ. ที่ถูกประกาศยกเลิกสัญญา แต่ยังไม่สิ้นสุดแผนการรักษา ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะใช้สิทธินอนรักษาต่อเนื่องได้ จนอาการดีขึ้น แพทย์พิจารณาแล้วอนุญาตให้กลับบ้านได้ โดย รพ.ยังเบิกค่าใช้จ่ายกรณีผู้ป่วยกลุ่มนี้มายัง สปสช.ได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จึงขอความร่วมมือ รพ.ช่วยดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ตามมาตรฐานการให้บริการสาธารณสุข

“ส่วนผู้ป่วยที่มีนัดผ่าตัด หรือแอดมิทเป็นผู้ป่วยใน ตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน กับ รพ.ที่ถูกบอกยกเลิกจำนวน 7 แห่ง ยังสามารถแจ้งชื่อ วันนัดผ่าตัด และเบอร์โทรศัพท์ มาที่สายด่วน สปสช. 1330 เจ้าหน้าที่จะประสานหน่วยบริการให้ได้รับการรักษา และได้รับผลกระทบน้อยที่สุด หรือหากมีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามทางสายด่วน 1330 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทาง สปสช. ต้องขออภัยความไม่สะดวกในครั้งนี้” นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว

สปสช.

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่าขณะนี้เบอร์สายด่วน ปริมาณการใช้งานจำนวนมาก ผู้ที่โทรเข้ามาสอบถามอาจไม่ได้รับความสะดวก สายไม่ว่าง รอนาน สปสช. ขอแนะนำช่องทางการสื่อสารเพิ่มเติมดังนี้

1. ประชาชนมีสิทธิอยู่ที่คลินิก-รพ.เอกชน ที่ถูกยกเลิกสัญญาทั้ง 64 แห่ง กรณีไม่มีนัด หรือไม่มีรับยาต่อเนื่องขอให้ประชาชนติดต่อลงทะเบียนใช้สิทธิการรักษาแห่งใหม่ ด้วยตนเองผ่านช่องทางแอพพลิเคชั่นไลน์ เลือกลงทะเบียนด้วยตนเองเมนูด้านล่างของไลน์ https://lin.ee/mLvmHpQ หรือที่สำนักงานเขตทั้ง 19 เขตใน กทม. หรือโหลดแอพพ์ของ สปสช. เลือกที่ “ลงทะเบียนด้วยตนเอง” http://onelink.to/ucbkkpp

2. ตรวจสอบสิทธิและสอบถามเจ้าหน้าที่ผ่านช่องทางไลน์ได้ที่ https://lin.ee/mLvmHpQ หรือตรวจสอบสิทธิผ่านทาง http://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml และสามารถตรวจสอบรายชื่อ 64 คลินิกและ รพ.ที่ถูกยกเลิกสัญญาได้ที่ https://bkk.nhso.go.th/main/shownews.php?newsid=4664

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight