เปิดประเทศ! ครม.อนุมัติหลักการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ พักในไทยได้ยาว 270 วัน หวังนำนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ เดินทางเข้ามาในประเทศเพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม. อนุมัติหลักการ แนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist VISA (STV) ตามที่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ โดยให้คนต่างด้าวที่มีคุณสมบัติ ดังนี้คือ
1. เป็นบุคคลต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางมาพำนักระยะยาว (Long Stay) ภายในประเทศไทย
2. ยอมรับการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ประกาศใช้ภายในประเทศไทย และตกลงยินยอมกักตัวในห้องพักจำนวน 14 วัน (ALSQ)
3. มีหลักฐานสถานที่พักอาศัยระยะยาวภายในประเทศไทย ได้แก่ หลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรมที่พัก หรือโรงพยาบาลที่พัก (AHQ) ภายในประเทศไทย และหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า สำหรับหลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรมที่พัก ที่จะใช้เป็นที่พักหลังจากออกจากโรงแรมที่พัก ที่เป็นสถานที่กักตัว หรือ โรงพยาบาลที่พัก ตามระยะเวลาที่ ประสงค์จะพำนักระยะยาว ภายในประเทศไทย หรือ หลักฐานสำเนาโฉนดห้องชุดของที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียม ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลต่างด้าวหรือบุคคลในครอบครัวของบุคคลต่างด้าว หลักฐานการเช่าที่พักประเภทคอนโดมิเนียมหรือบ้านพัก หลักฐานการชำระเงินดาวน์ของบุคคลต่างด้าวในการซื้อหรือเช่า ที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียมที่บุคคลต่างด้าวสามารถซื้อได้ตามกฎหมาย
ทั้งนี้ บุคคลต่างด้าวตามเกณฑ์ข้างต้น และผ่านการดำเนินการตามการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด มีสิทธิขอรับการตรวจ ลงตราประเภทนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ Special Tourist Visa (STV) โดยเสียค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ครั้งละ 2,000 บาทได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลา 90 วัน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ครบกำหนดเวลาอนุญาต 90 วันแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคน เข้าเมืองมีอำนาจอนุญาตให้อยู่ต่อไปได้อีก 2 ครั้ง ๆ ละ 90 วัน โดยคนต่างด้าวต้องยื่นคำขอตามแบบ และเสียค่าธรรมเนียมตามที่กำหนด โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศ จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564
สำหรับแนวทางการ เปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษนี้ เพื่อต้องการนำนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวม ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไป ไม่สามารถเดินทางได้ เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว
แต่ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศไทย สามารถบริหารจัดการและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค จนได้รับการจัดอันดับประเทศที่มีความปลอดภัยเป็นอันดับ 1 ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง ทำให้คนต่างด้าวที่เรียกว่ากลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมีศักยภาพจากทุกประเทศทั่วโลกมีความต้องการเดินทางเข้ามาพร้อม ครอบครัวเพื่อมาพำนักระยะยาว (Long Stay) ภายในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ในระยะเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายได้หลักจากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศไทย นำเงินตราเข้าสู่ประเทศไทยจำนวนไม่น้อยกว่า 2 ล้านล้านบาท เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ภายในประเทศขาดรายได้และได้รับผลกระทบในทุกภาคส่วน รัฐบาลจึงมีนโยบายที่จะเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยว ชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาพำนักระยะยาว (Long Stay) ภายในประเทศไทย ในพื้นที่ปิดที่สามารถ ควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว ของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา โดยเป็นการปรับปรุงรายละเอียดโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่ให้มีการใช้สิทธิ์ท่องเที่ยวในประเทศ โดยรัฐสนับสนุนเงินค่าที่พัก ค่าเดินทางโดยเครื่องบิน และส่วนลดร้านค้าในช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม นี้ รวม 4 เดือน
โดยที่มีแนวคิดให้มีการท่องเที่ยวเพิ่มของกลุ่มที่มีกำลังในการจับจ่ายใช้สอย เช่น กลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และลูกจ้างของส่วนราชการ ไปใช้จ่ายตามโครงการเพิ่มขึ้นจึงเห็นชอบให้ปรับปรุงเงื่อนไขโครงการให้กลุ่มข้าราชการ ลูกจ้างในหน่วยงานรัฐ และลูกจ้างนัฐวิสาหกิจสามารถใช้สิทธิ์ลาพักร้อนได้ 2 วัน โดย ไม่ถือเป็นวันลา กลุ่มดังกล่าวลงทะเบียนแล้ว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยววันธรรมดาเพื่อความถี่ในการพักค้างในกลุ่มที่มีศักยภาพและที่มีกำลังซื้อ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการออกวีซ่านักท่องเที่ยวแบบใหม่ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวพำนักระยะยาว ว่าในที่ประชุม ครม.ได้มีการหารือเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะต้องมีการหารือในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) หรือ ศบค.อีกครั้ง และยังต้องรับฟังความคิดเห็นจากหลายส่วน
สิ่งสำคัญจะต้องมีการกักตัวตามระยะเวลาที่กำหนด เพราะคนกลุ่มนี้เขาอยู่ยาว เนื่องจากมาในเรื่องการท่องเที่ยวและสุขภาพ ซึ่งสามารถอยู่ในสถานที่กักตัวทั้งในสถานที่ที่รัฐจัดให้ หรือสถานที่ที่เขาเลือก หรือในระบบโรงพยาบาล ขอให้ทุกคนช่วยกันประชาสัมพันธ์สิ่งที่ควรจะเป็นให้มีความไว้วางใจ ซึ่งระบบสาธารณสุขของเราถือว่าดีที่สุดในโลก อยู่ในระดับต้นๆ ต้องมั่นใจตรงนี้ สิ่งสำคัญอยู่ที่ความร่วมมือ ตรวจสอบติดตาม คัดกรอง
“ที่สำคัญการ์ดอย่าตก หลายกิจกรรมที่เราผ่อนคลาย ตอนยังไม่ผ่อนคลายก็ขอร้องรัฐบาล พอคลายล็อกก็เริ่มคลายความเข้มงวดลงไป ถือว่าอันตราย ถ้าไม่สามารถทำตามมาตรการได้ก็อย่ามาโทษรัฐบาล” นายกฯ กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ครม.ไฟเขียว ‘ข้าราชการ-รัฐวิสาหกิจ’ หยุดได้ 2 วัน ไม่ถือเป็นวันลา
- ‘บิ๊กตู่’ โวยสื่อใครบอกรัฐบาลตูดขาด ด้าน ‘ปลัดคลัง’ ยันถังไม่แตก!
- ‘นายกฯ’ ห่วงชุมนุม 19 กันยายน ลั่น! อย่ากดดันเรื่องที่เป็นไปไม่ได้