“โรม” แฉกองทัพประกาศซื้ออาวุธรอบใหม่ 834 ล้านขณะประเทศมีปัญหา นี่หรือความรักชาติแบบ “บิ๊กแดง” ด้าน “จาตุรนต์” ไม่พลาดโพสต์แซะ จะเกษียณอยู่แล้ว ไม่น่ายกวาทกรรม “ชังชาติ” มาทำลายตัวเอง
วันนี้ (6 ส.ค. 63) นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โพสต์เอกสารการจัดซื้อจัดจ้างปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้งแบบลากจูงของ กรมสรรพาวุธทหารบก ผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมเขียนข้อความอ้างถึงวาทกรรม “ชังชาติ” ของพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) หรือ บิ๊กแดง ว่า
“เรามาดูตัวอย่างความรักชาติในสไตล์ของ ผบ.ทบ. กันครับ
เมื่อวานนี้ 5 สิงหาคม 2563 วันเดียวกับที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ออกมาเอื้อนเอ่ยวาทกรรม “โรคชังชาติรักษาไม่หาย” นั้น กองทัพบกโดยกรมสรรพาวุธทหารบกก็ได้ออกประกาศเผยแพร่แผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีงบประมาณ 2563 มีรายการอย่างปืนใหญ่พร้อมอุปกรณ์ประกอบ จำนวน 2 รายการ เป็นวงเงินถึง 834.4 ล้านบาท
หรือย้อนกลับไปเมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว 15 กรกฎาคม 2563 กรมสรรพาวุธทหารบกก็เพิ่งประกาศแผนจัดซื้อกระสุนปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน 2 รายการ 249.9 ล้านบาท
และถ้ายังจำกันได้ ก่อนหน้านี้ก็มีรายการจัดซื้อยานเกราะล้อยาง 4,515 ล้านบาท ซื้อเครื่องบิน VIP 1,348.5 ล้านบาทออกมาแล้ว ยังไม่นับว่ามีรายการอาวุธยิบๆ ย่อยๆ ราคาหลักสิบล้านอีกหลายรายการ
หรือว่านี่คือการแสดงออกถึงความรักชาติบ้านเมือง ความสำนึกบุญคุณแผ่นดินเกิดในแบบที่ พล.อ.อภิรัชต์ ชอบกระทำ ที่แม้กระทั่งเวลาบ้านเมืองมีสถานการณ์ปัญหาให้ต้องแก้ไขเป็นการเร่งด่วน แต่กองทัพก็ยังมีอารมณ์หาซื้ออาวุธใหม่ๆ มาประดับค่ายได้อย่างไม่หยุดหย่อน
ประชาชนเขาไม่ได้ชังชาติหรอกครับ แต่เพราะมันมีบางคนบางกลุ่มที่ยึดกุมอำนาจอยู่ในองค์กร หน่วยงาน สถาบันต่างๆ ของชาติ แล้วประพฤติปฏิบัติตนได้น่ารังเกียจชิงชังเป็นอย่างยิ่ง แถมยังชอบผูกขาดความรักชาติ ชอบแอบอ้างว่าตัวเองคือชาติที่ประชาชนจะต้องมารัก คนพวกนี้แหละที่ทำให้ประชาชนสิ้นหวังต่อประเทศมากขึ้นทุกทีๆ
นี่เป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เรื่องราวอันน่าชังที่เกิดขึ้นในกองทัพยังมีอีกมากมาย ซึ่งผมจะได้หยิบยกขึ้นมากล่าวถึงในภายภาคหน้า โปรดติดตามชมกันต่อไปครับ”
“จาตุรนต์” แซะ “บิ๊กแดง” กำลังจะเกษียณ ไม่น่าทำลายตัวเอง
วันนี้ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติและอดีตรองนายกรัฐมนตรี ก็โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณี “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ออกมาระบุโรคโควิด-19 รักษาหาย แต่โรคชังชาติรักษาไม่หายว่า
“ใคร “ชังชาติ” ใครทำความเสียหายแก่ชาติกันแน่
ตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ. มา พลเอกอภิรัชต์ออกมาพูดอะไรให้เป็นที่ฮือฮาอยู่หลายครั้ง เข้าใจว่าคงมีคนเขียนบทให้ แล้วแกก็พูดไปตามนั้น แบบไม่ค่อยเข้าใจว่า ตัวเองกำลังพูดอะไร บางทีก็แสดงบทเกินกว่าเนื้อหา เช่น น้ำตาซึม หรือถึงกับต้องซับน้ำตา แต่เนื้อหาไปไม่ได้ พูดทีไรก็มีแต่คนโห่ ว่าทำให้เกิดความแตกแยกบ้าง หรือเป็น ผบ.ทบ. ไม่ควรพูดเรื่องการเมืองบ้าง
เหลือเวลาอีกแค่เดือนกว่าๆ ก็จะเกษียณแล้ว พลเอกอภิรัชต์ไม่น่าทำลายตัวเองซ้ำอีกด้วยการพูดเรื่อง “ชังชาติ” ขึ้นมาเลย
ใครฟังพลเอกอภิรัชต์พูดแล้วก็คงตีความได้ว่า ผู้ที่ “ชังชาติ” คือผู้ที่เห็นต่าง หรือที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล หรือระบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง
แต่ที่ พลเอกอภิรัชต์ แกล้งโง่ไม่เข้าใจ ก็คือผู้ที่เห็นต่างจากรัฐบาล หรือที่วิจารณ์นายกฯ หรือวิจารณ์ ผบ.ทบ. นั้น ไม่มีใครเขา “ชังชาติ” เพียงแต่เขาเห็นว่าประเทศนี้มีปัญหาเขาก็วิจารณ์
คนที่เห็นว่า รัฐบาลนี้ล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ได้ชังชาติ แต่เขาไม่พอใจรัฐบาล
คนที่เขาเห็นว่า นายกฯไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจพอที่จะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเองได้ ก็ไม่ได้ชังชาติ
คนที่เห็นว่า ระบบยุติธรรมของประเทศนี้เหลวแหลกพึ่งไม่ได้ ก็ไม่ได้ชังชาติ
คนที่เห็นว่า พรรคร่วมรัฐบาลแก่งแย่งอำนาจกันมากกว่าจะสนใจแก้ปัญหาบ้านเมือง ก็ไม่ได้ชังชาติ
เยาวชนนักเรียนนักศึกษาที่เห็นว่า ระบบการศึกษาไม่ตอบโจทย์การสร้างคนสร้างอาชีพและเห็นว่าประเทศนี้ไม่มีอนาคตก็ไม่ได้ชังชาติ
คนที่เขาไม่พอใจการอุ้มหายหรือการฆ่าผู้เห็นต่าง ก็ไม่ได้ชังชาติ
คนที่เห็นว่า รัฐธรรมนูญปัจจุบันไม่เป็นประชาธิปไตยและกำลังทำให้เกิดปัญหาที่แก้ไม่ตก ก็ไม่ได้ชังชาติ
ถ้าคนเหล่านี้ชังชาติ จะเหลือคนไม่ชังชาติอยู่สักกี่คนกัน
การที่ พลเอกอภิรัชต์ ออกมากล่าวหาผู้เห็นต่างว่าเป็นพวก ชังชาติ จึงเป็นการสร้างความแตกแยกของคนในชาติ หาประโยชน์อะไรไม่ได้เลย ยิ่งในเวลานี้เป็นช่วงที่ทุกฝ่ายทุกส่วนในสังคมควรจะรับฟังความเห็นของกันและกันให้มาก การพูดอย่างนี้จึงยิ่งเป็นการสร้างความเสียหายให้แก่ชาติเป็นอย่างมาก
พลเอกอภิรัชต์คงจะลืมไปว่า ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาผู้ที่อ้างตัวว่ารักชาติหรือทำเพื่อชาติแล้วกล่าวผู้ที่เห็นต่างว่าไม่รักชาติหรือเป็นภัยต่อชาตินั้น มักจะทำตัวเป็นภัยอันตรายสร้างความเสียหายให้แก่ชาติเสียเอง
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือ อดีต ผบ.ทบ. หลายคนที่ทำรัฐประหารโดยอ้างว่าทำเพื่อชาติ บางคนก็ทำให้เกิดความแตกแยกขัดแย้งของคนในชาติถึงขั้นเข่นฆ่าประหัตประหารกัน อดีต ผบ.ทบ. บางคนก็คือผู้ที่บัญชาการปราบปรามประชาชนอย่างโหดเหี้ยมมาแล้ว และอดีต ผบ.ทบ. บางคนก็สมคบร่วมมือกันสืบทอดอำนาจเผด็จการปล้นบ้านกินเมืองกันอยู่จนทุกวันนี้ การกระทำเหล่านี้คือการสร้างความเสียหายแก่ชาติหรือทำลายชาติ
ผบ.ทบ. คนปัจจุบันอาจจะยังทำเรื่องเหล่านี้ไม่ครบทุกเรื่อง แต่ก็ดูจะใกล้เข้าไปทุกทีแล้ว
เวลาที่คนเขาเห็นว่าการกระทำใดของ อดีต ผบ.ทบ. หรือ ผบ.ทบ. ปัจจุบันเป็นการทำความเสียหายแก่ชาติหรือทำลายชาติเขาก็วิพากษ์วิจารณ์หรือประณามสาปแช่ง แต่ไม่มีใคร “ชังชาติ” แต่อย่างใดเลย
ไม่ทราบว่า พลเอกอภิรัชต์ จะเข้าใจหรือไม่”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ผบ.ทบ.’ลั่น! โควิดเป็นแล้วหายได้ – โรคชังชาติเป็นแล้วไม่หาย ไร้วัคซีนป้องกัน
- ‘ศรีสุวรรณ’ แนะทางแก้ ‘แฟลชม็อบ’ แค่จับ ‘นักการเมืองชังชาติ’ ก็จบ
- ‘เสรีพิศุทธ์’ ฉะ ‘บิ๊กแดง’ ทหารอย่ายุ่งกับการเมือง! เชื่อม็อบนักศึกษาบริสุทธิ์ใจ