Politics

เยาวชนปลดแอก: ‘นายกฯ’ เปิดทางยื่น 3 ข้อเสนอผ่านสภา สั่งเจ้าหน้าที่อย่าก้าวล่วง

เยาวชนปลดแอก: “นายกฯ” เห็นใจเด็กๆ ชุมนุมประท้วง เผยสั่งอย่างเดียวให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวัง อย่าไปก้าวล่วง พร้อมเปิดทางยื่น 3 ข้อเรียกร้องผ่านรัฐสภา

จากกรณีที่ กลุ่มเยาวชนปลดแอก (Free YOUTH) นัดชุมนุมประท้วงที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 และยื่นข้อเรียกร้อง 3 ประเด็นต่อรัฐบาล รวมถึงมีกลุ่มเยาวชน นักศึกษา และประชาชนรวมกันตัวชุมนุมประท้วงที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2563 โดยมีแนวคิดเดียวกันนั้น

เยาวชนปลดแอก นายกฯ

“นายกฯ” เป็นห่วงชุมนุม เยาวชนปลดแอก

วันนี้ (21 ก.ค. 63) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงประเด็นดังกล่าว หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงที่ยังมีการเคลื่อนไหวต่างๆ เหล่านี้ โดยตนสั่งการอย่างเดียวว่า ขอให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เห็นใจในบรรดาเด็กๆ ของพวกเรา เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา บางทีก็เป็นห่วงแทนผู้ปกครองเขาด้วยเท่านั้นเอง ก็ระมัดระวังการละเมิด อย่าไปก้าวล่วง

“ผมคิดว่า ประชาชนคงไม่ยอมให้เกิดเหตุการเช่นนี้ขึ้นอีก ไม่สมควรจะเกิดสำหรับประเทศไทยของเรา ผมจะไม่พูดมากในเรื่องเหล่านี้ ไม่ต้องการให้เป็นประเด็น” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

สำหรับข้อเสนอ 3 ด้านของกลุ่ม เยาวชนปลดแอก นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าก็ให้เสนอมาตามขั้นตอนของรัฐสภา โดยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา

สำหรับการขยายอายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ชุดใหญ่ จะหารืออีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค. 63) ว่ามีความจำเป็นอย่างไร

สิ่งสำคัญที่สุดคือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับนี้มีไว้เพื่ออะไร ตนเคยพูดไปหลายครั้งแล้วว่า เป็นเพราะหลายกฎหมายไม่ครอบคลุม ตนไม่ได้นำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไปยุ่งเกี่ยวกับการชุมนุมใดๆ ทั้งสิ้นเลย เพราะมี พ.ร.บ.ชุมนุม อยู่แล้ว ตนไม่ต้องไปสั่งการเพิ่มเติม

ขณะเดียวกันพรุ่งนี้ ศบค. ชุดใหญ่ จะพิจารณาเรื่องการผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 6 โดยหากรัฐบาลมีมาตรการออกไปแล้ว ก็ต้องขอให้มีผู้รับผิดชอบในพื้นที่ด้วย จะได้ไม่เกิดผลกระทบตามมาภายหลัง เพราะต้องสร้างความสมดุลระหว่างสุขภาพและเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งวันนี้จะเห็นได้ว่ามีความเดือดร้อนมาก

เยาวชนปลดแอก

3 ข้อเรียกร้อง “เยาวชนปลดแอก”

สำหรับข้อเรียกร้อง 3 ประการของกลุ่ม เยาวชนปลดแอก ซึ่ง นายกรัฐมนตรี ขอให้นำเสนอผ่านช่องทางรัฐสภา ได้แก่

1.“ต้องประกาศยุบสภา” รัฐบาลสืบทอดอำนาจภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รัฐบาลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินและออกมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้มีคนตกงานและขาดรายได้เป็นจำนวนมาก

แต่รัฐบาลก็มิได้เยียวยาอย่างถ้วนหน้าและทั่วถึง มิหนำซ้ำยังปล่อยให้ประชาชนเดือดร้อนจากพิษเศรษฐกิจโดยที่ไม่แยแสแต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ปล่อยปละละเลยให้แขกวีไอพี ที่มีเชื้อไวรัสเข้ามาในประเทศโดยที่ไม่ได้กักตัวซึ่งถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อโอกาสที่จะมีการแพร่ระบาดครั้งใหญ่รอบ 2

ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่อาจไว้วางใจให้รัฐบาลชุดนี้บริหารบ้านเมืองต่อไปได้ จึงขอยื่นคำขาดว่า นายกรัฐมนตรีต้องประกาศ “ยุบสภา” เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนและเปิดทางให้คนที่มีความรู้ความสามารถมาแก้ไขปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจ

2.“หยุดคุกคามประชาชน” ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 เราต่างก็หวังกันว่าประเทศไทยจะมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ประชาชนจะมีเสรีภาพในการแสดงออก และเสรีภาพในการชุมนุมโดยที่ไม่ถูกคุกคามและยัดข้อกล่าวหาหรือคดีความ

แต่ความเป็นจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่ การคุกคามทั้งทางกายภาพและทางจิตวิทยายังคงดำเนินต่อไป แทบไม่ต่างจากเมื่อสมัยที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังมีอำนาจอยู่ เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ลูก ๆ หลาน ๆ ของเราถูกยัดคดีไปทีละคน ทีละคน มีการอ้างความมั่นคงเพื่อปิดปากประชาชนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยและความยุติธรรม

ดังนั้น เราจึงขอเรียกร้องให้หยุดคุกคามประชาชน ทั้งทางกายภาพ ทางจิตวิทยาตลอดจนการยัดข้อหาเพื่อดำเนินคดีรวมไปถึงให้รัฐสภายกเลิกกฎหมายที่ละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย

เยาวชนปลดแอก

3.“ร่างรัฐธรรมนูญใหม่” เรามีรัฐธรรมนูญที่เอื้อต่อการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเผด็จการ โดยแรกเริ่มเดิมทีก็มีที่มาที่ไม่ชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตยแล้ว เพราะ คณะผู้ร่างไม่ได้มีความยึดโยงกับประชาชน ผู้ที่รณรงค์ให้ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในการลงประชามติก็ถูกคุกคามและยัดข้อหากันไปหลายคน เนื้อหาของรัฐธรรมนูญก็เป็นไปเพื่อรักษาระบอบเผด็จการในคราบประชาธิปไตย

รัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจนี้เป็นต้นตอของปัญหาทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ดังนั้น การจะปลดล็อกกุญแจดอกแรกที่จะนำพาประเทศไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนอย่างแท้จริงได้ คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยคำนึงถึงหลักการสิทธิมนุษยชนเป็นหลักและปราศจากการแทรกแซงของคนที่ประชาชนไม่ได้เลือก

หากภายใน 2 สัปดาห์นับตั้งแต่เราอ่านประกาศวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 นี้ หากไม่มีการตอบรับใด ๆ จากทางรัฐบาลเกี่ยวกับข้อเรียกร้องทั้ง 3 ประการนี้ เราจะทำการยกระดับการชุมนุมต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo