Politics

ประกาศ ‘ยกเลิกเคอร์ฟิว’ ทั่วราชอาณาจักร ดีเดย์จันทร์นี้!!

“เลิกเคอร์ฟิว” ทั่วราชอาณาจักร ดีเดย์จันทร์นี้ ชี้ยังคง “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” ไว้เช่นเดิม

พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้เข้ารายงานผลการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อโควิด-19 เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2563 ต่อที่ประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน

พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ได้รายงานให้นายกรัฐมนตรี รับทราบและให้ดำเนินการตามผลของการประชุมฯ เพราะถือว่าได้ใคร่ควรมาดีแล้ว ให้ผ่อนคลายเกือบหมด 95% โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลังจากผ่อนคลายมาตรการเป็นระยะ ประชาชนให้ความร่วมมือดี จึงเป็นที่มาว่าจะผ่อนคลายให้มากที่สุด แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง ซึ่งครั้งนี้จะผ่อนคลายเกือบทั้งหมด สำหรับเคอร์ฟิว จะมีข่าวดี ขอให้รอฟังในวันนี้ (12 มิ.ย.)

เลิกเคอร์ฟิว

รายงานข่าวจาก ทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า ในการประชุม ศบค. ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ได้เห็นชอบแนวทางการผ่อนปรนในระยะที่ 4 ในกลุ่มกิจการธุรกิจสีแดง ตามที่พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อโควิดเสนอ

ทั้งนี้ รายงานข่าว ระบุว่า นายกรัฐมนตรี เห็นชอบให้ยก เลิกเคอร์ฟิว โดยให้มีผลในวันที่ 15 มิถุนายน 2563 เนื่องจากต้องการลดผลกระทบต่อประชาชน พร้อมเห็นว่าที่ผ่านมาประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้ควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดได้

เลิกเคอร์ฟิว

โดยนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ไปศึกษาข้อกฏหมาย เพื่อเตรียมออกมาตรการในการควบคุมและกักตัวคนกลับจากต่างประเทศ เพื่อควบคุมเชื้อนำเข้า รวมถึงคุ้มครองในกรณีที่อาจจะถูกสายการบินฟ้องร้อง จากการปิดน่านฟ้าและสนามบิน หากมีการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

“การปลดล็อกเฟส 4 ครั้งนี้ เพื่อเป็นการผ่อนคลายเกือบทั้งหมด จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมการแพร่ระบาด ให้มีประสิทธิภาพ รองรับการมีวิถีชีวิตใหม่ของประชาชน” นายกรัฐมนตรี ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประกาศยก เลิกเคอร์ฟิว จะมีขึ้นในการประชุม “ศบค.ชุดใหญ่” ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ โดยหลังประชุม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. จะแถลงข่าว โดยนายกรัฐมนตรี กำลังพิจารณาว่า จะแจ้งข่าวดีให้ประชาชนรับทราบผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ (ทรท.) ในช่วงเย็นหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่า ที่ประชุม ศบค. เห็นชอบให้มีการ ยกเลิกเคอร์ฟิว โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน เป็นต้นไป ทั้งนี้ให้มีการเฝ้าระวัง หากมีการระบาดอีกครั้ง ก็สามารถนำกลับมาประกาศใช้ได้อีก ส่วน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังคงประกาศใช้อยู่เช่นเดิม สำหรับการหยุดชดเชยช่วงวันหยุดสงกรานต์นั้น ในที่ประชุม ศบค.ยังไม่มีการพูดถึง แต่ให้เป็นพิจารณาและตัดสินใจโดย คณะรัฐมนตรี (ครม.) เอง

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ในที่ประชุมศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) มีมติ ยกเลิกมาตรการห้ามออกนอกเคหะสถานทั่วราชอาณาจักร ระหว่างเวลา 23.00 น. – 03.00 น. เริ่มวันที่  15 มิถุนายน  2563 แต่ยังคงห้ามการเดินทางเข้าราชอาณาจักรทั้งทางบก น้ำ และอากาศ

ทั้งนี้ อนุญาตให้ขายเหล้าในร้านอาหารได้ การจัดคอนเสิร์ตโดยมีระยะห่าง 5 ตารางเมตร/คน แต่ยังคงมาตราการห้ามเปิดสถานบันเทิง อาทิ ผับ บาร์ โรงเหล้า  อาบอบนวด ส่วนการยกเลิกเคอร์ฟิวนั้น เนื่องจากต้องการจะลดผลกระทบต่อประชาชน ที่ผ่านมาทุกคนให้ความร่วมมือดี ทำให้ควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดได้ดีมาก

สำหรับยอดผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทย ประจำวันที่ 12 มิถุนายน 2563 พบว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 4 ราย จากสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ (กลับมาจากประเทศอินเดีย) หายป่วยแล้ว 2,987 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,129 ราย เสียชีวิตสะสม 58 ราย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo