เลขา สมช. ระบุว่า มีแนวโน้ม ยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน หลังครบกำหนด วันที่ 31 พ.ค. นี้ แต่ต้องพิจารณารอบด้าน เผยผลโพลล์สำรวจ ยังไม่ใช่ตัวชี้วัด
การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จำเป็นต้องพิจารณาหลายๆด้าน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และความปลอดภัยของประชาชน เช่นเดียวกับ เคอร์ฟิว แม้ว่าบางกิจกรรม เช่น สถานบริการกลางคืน อย่าง ผับ บาร์ ยังไม่อนุญาตให้เปิด แต่ยังพบประชาชนออกมามั่วสุมในยามวิกาล เช่น ตั้งวงสังสรรค์ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เล่นการพนัน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่เสี่ยงต่อการระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้อาจจะพิจารณาขยายเวลาออกไปจากเดิม ต้องดูกิจกรรมที่จะผ่อนปรนในระยะที่สอง ว่ามีอะไรบ้าง หากยังมีเคอร์ฟิวจะส่งผลกระทบอย่างไรหรือ ยกเลิกเคอร์ฟิว จะมีผลอะไรตามมา ส่วนหากจะขยายเวลาเคอร์ฟิว เป็นช่วงเวลาไหนนั้น ยังตอบไม่ได้ ต้องหารือในภาพรวมที่ประชุม ศบค.อีกครั้ง
“สักวันก็ต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อยู่แล้ว ไม่สามารถใช้ไปตลอดได้ เพียงแต่ต้องคำนึงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เป็นหลัก ขณะที่ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และประชาชน ก็เป็นสิ่งมองข้ามไม่ได้ “ เลขาสมช. ระบุ
เมื่อถามว่า มีแนวโน้มว่า จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สิ้นเดือนนี้ หลังครบกำหนดวันที่ 31 พฤษภาคมหรือไม่เพราะ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ใช่ แต่ต้องพิจารณาปัจจัยหลายๆด้านมาประกอบกัน ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องมานั่งประเมินกัน ที่สำคัญต้องดูความร่วมมือของประชาชนและสถานประกอบการ รวมถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อยังสามารถควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ที่รองรับได้หรือไม่
ส่วนกรณีฝ่ายการเมืองโจมตีรัฐบาล ยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งๆตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงแล้ว เพราะไม่อยากให้มีการชุมนุมนั้น คงไม่เกี่ยว อย่านำมาโยงกัน การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นเรื่องความปลอดภัยด้านสุขภาพของประชาชน
- ‘บิ๊กตู่’ สั่ง ‘กอ.รมน.’ ทำโพลล์สำรวจความเห็นปชช. ประกาศ’พรก.ฉุกเฉิน’
- ‘สายการบินแห่งชาติโคลัมเบีย’ ไปไม่ไหว! ยื่นล้มละลาย ขอพิทักษ์ทรัพย์
- พบ 6 กิจการ/กิจกรรม ป้องกันโควิด-19 ไม่สมบูรณ์ 30.49% แนะต้องทำเพิ่ม