นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่าได้สั่งให้สหกรณ์โคนมที่ส่งน้ำนมดิบเข้าโครงการนมโรงเรียน ต้องผลิตนมมีคุณภาพตามข้อกำหนดของคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (Milk Board) และห้ามผู้ประกอบการที่ได้รับโควตาจำหน่ายนมโรงเรียน ห้ามทุจริตจ่ายเงินใต้โต๊ะ
“จะพิจารณาผู้ได้รับสิทธิจัดจำหน่ายนมโรงเรียนอย่างโปร่งใส และเสนอครม.เปลี่ยนชื่อจากโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน เป็นโครงการอาหารเสริมสำหรับเด็กและเยาวชนไทย เพื่อให้เด็กและเยาวชนทั่วประเทศมีโอกาสได้ดื่มนม มีแคลเซียมสูงช่วยบำรุงกระดูกและฟัน รวมถึงมีคุณค่าทางอาหารสูง บำรุงสมองให้เด็กฉลาด”
ด้านนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุศัตว์ ประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนกล่าวว่า ได้มีการปรับปรุงมาตรการการป้องกันการทุจริตโครงการอาหารนมโรงเรียน โดยเสนอให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม เพื่อให้เป็นตามข้อเสนอของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ก่อนเสนอครม.
ทั้งนี้ตามข้อเสนอแนะระบุว่า 1. ให้กระทรวงศึกษาธิการ ตรวจสอบติดตามประเมินผลการดำเนินงานนมโรงเรียน อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง 2. ให้กระทรวงเกษตรฯ ทบทวน การบริหารจัดการโครงการอาหารนมโรงเรียน โดยให้ทบทวนบทบาทหน่วยงานที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เพื่อป้องกันปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน
3. ให้ทบทวนระยะเวลาการจัดทำบันทึกข้อตกลงกับผู้ประกอบการ ปีละ 1 ครั้ง ในช่วงเดือนตุลาคม เป็นระยะเวลาคาบเกี่ยวภาคการศึกษาที่ 2 ทำให้เมื่อได้ดำเนินการจัดสรรสิทธิ์แล้ว ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนสิทธิการจำหน่ายได้ โดยมิลค์บอร์ด เห็นว่าควร MOU เป็นรายภาคการศึกษาแทนการทำเป็นรายปี
4. ปรับปรุงจัดการระบบโลจิสติกส์ในการขนส่งนมโรงเรียน เพื่อรักษาคุณภาพน้ำนม 5. กระทรวงเกษตรฯ ต้องพิจารณาทบทวน เพิ่มอัตราโทษของความผิดผู้ประกอบการที่ไม่สามารถปฏิบัติได้
6. ให้โรงเรียนเป็นผู้สั่งซื้อโดยตรง ผ่านระบบการจัดซื้อด้วยระบบการจัดหาพัสดุด้วยวิธีการตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-market) และด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) แทนวิธีการจัดซื้อแบบวิธีพิเศษเช่นที่ผ่านมา และ 7. ให้ทบทวนมิลค์บอร์ด โดยให้ปรับฝ่ายเลขานุการจากองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เป็นกรมปศุสัตว์ เพราะเป็นหน่วยงานที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในระบบการบริหารจัดการนมโรงเรียน
” ในปีการศึกษา 2561 นี้มีผู้ประกอบการได้รับการจัดสรรสิทธิในโครงการนมโรงเรียน 62 ราย จำนวน 68 โรงงาน”นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าว