ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศบค. รายงานสถานการณ์ประจำวันที่ 11 เมษายน 2563 ว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 45 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 2,518 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 35 ราย
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 5 อันดับแรก อยู่ในกรุงเทพฯ 17 ราย สงขลา 8 ราย ปัตตานี 7 ราย ภูเก็ต 6 ราย ปทุมธานี 3 ราย
โดย 10 จังหวัดพบผู้ป่วยติดเชื้อสูงสุดประกอบด้วย 1. กรุงเทพฯ 1,280 ราย 2. ภูเก็ต 172 ราย 3. นนทบุรี 148 ราย 4. สมุทรปราการ 106 ราย 5. ยะลา 77 ราย 6. ชลบุรี 75 ราย 7.ปัตตานี 74 ราย 8. สงขลา 55 ราย 9. เชียงใหม่ 40 ราย 10. ปทุมธานี 33 ราย
ปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อของไทยคือ การสัมผัสใกล้ชิดคนในบ้าน รองลงมาเป็นที่ทำงาน ดังนั้นจึงมีมาตรการช่วงสงกรานต์ออกมาเพิ่มเติม เพื่อลดการสัมผัสใกล้ชิด เพราะตอนนี้สุขภาพต้องมาก่อน สุขภาพของคนในประเทศดี จึงจะสืบสานวัฒนธรรมประเพณีได้ หากสุขภาพมีปญหา การสืบสานจากรุ่นต่อรุ่นก็ไปไม่ได้
- ระวัง!! สธ.เตือน ‘ไวรัสโควิด’ มีชีวิตในน้ำได้นาน 4-10 วัน
- ‘ศบค.’ กังวลอัตราติดเชื้อภายในบ้านพุ่ง 56% ขอเว้นระยะห่าง
- ‘เจ้าสัวธนินท์’ ลั่น16 เม.ย.เริ่มผลิตหน้ากากแจกฟรี ผ่านรพ.จุฬาฯ
ทั่วประเทศยังมีผู้ติดเชื้อรวม 68 จังหวัด โดยพื้นที่ภาคกลาง มีผู้ติดเชื้อรวม 1,673 ราย กรุงเทพฯมีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 1,280 ราย นนทบุรี 148 ราย สมุทรปราการ 108 ราย ภาคใต้มีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 478 ราย ภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 172 ราย ยะลา 77 ราย ภาคตะวันออกมียอดติดเชื้อสะสม 117 ราย ชลบุรี มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 72 ราย สระแก้ว และฉะเชิงเทราจังหวัดละ 14 ราย
ภาคอีสาน มีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 106 รายยอดสะสมเท่ากับเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2563 โดยจังหวัดนครราชสีมา มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด 17 ราย อุบลราชธานี 15 ราย ภาคเหนือ มีผู้ติดเชื้อสะสมเท่ากับเมื่อวาน(10เม.ย.)อยู่ที่ 71 ราย เชียงใหม่ยังคงมียอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 40 ราย
อย่างไรก็ดี ยังคงมี 9 จังหวัดทั่วประเทศที่ยังสามารถประคองไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้าพื้นที่ได้ประกอบด้วย จังหวัดน่าน กำแพงเพชร พิจิตร ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง บึงกาฬ ตราด และระนอง