นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ศักยภาพในการอุ้มน้ำของดินต่ำลง หากมีปริมาณฝนสะสมเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลาดเชิงเขา อาจทำให้พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม จึงได้ประสาน 18 จังหวัดในพื้นที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แยกเป็นพื้นที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษ 8 จังหวัดได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอสบเมย อำเภอแม่สะเรียง และอำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดเชียงใหม่ อำเภออมก๋อย จังหวัดลำปาง อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอปัว อำเภอบ่อเกลือ อำเภอท่าวังผา จังหวัดตาก อำเภอแม่ระมาด อำเภอท่าสองยาง อำเภอแม่สอด อำเภออุ้มผาง จังหวัดจันทบุรี อำเภอเขาคิชฌกูฎ จังหวัดตราด อำเภอบ่อไร่ อำเภอเขาสมิง และจังหวัดระนอง อำเภอกะเปอร์ ส่วนพื้นที่เฝ้าระวัง 10 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ลำพูน พะเยา แพร่ เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี ราชบุรี พังงา กระบี่ และสตูล
ทั้งนี้ ได้ให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากและดินถล่มอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ที่มีภูเขาสูงชัน พื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และพื้นที่ที่เคยเกิดมาก่อนแล้ว พร้อมติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสม 24 ชั่วโมง หากฝนตกหนักถึงหนักมากและสถานการณ์รุนแรง ให้พิจารณาอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว ยานพาหนะ เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย ทั้งนี้ ให้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัยในระยะนี้ และปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด