Politics

ปิดสถานบันเทิง! ‘อนุทิน’ลั่นความปลอดภัยต้องมาก่อน

“อนุทิน”แจงปิด”สถานบันเทิง”ในกทม.-ปริมณฑล เพื่อบิ๊กคลีนนิ่ง เข้าใจความเดือดร้อนผู้เกี่ยวข้อง แต่ความปลอดภัยต้องมาก่อน ยันสธ.มีความพร้อม เคยสู้โรคร้ายแรงมาแล้ว 

นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าเรามีความพร้อมรับมือต่อสถานการณ์ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการดูแลรักษา การคัดกรองผู้ป่วย เวชภัณฑ์ ผ่านมา 2 เดือนครึ่ง สามารถหาผู้ที่ติดเชื้อได้พบเกือบทุกราย มีการแถลงทำความเข้าใจและแนะนำประชาชน ถึงวิธีปฏิบัติที่จะหลีกเลี่ยงจากการเสี่ยงติดเชื้อ หากมีอาการต้องปฏิบัติตัวอย่างไร  เรายังมีการเดินทางไปมาของคนในประเทศและต่างประเทศ  สถานการณ์ในปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเรายังหาต้นตอได้ จำนวนผู้ป่วยที่หายป่วยก็มีไม่น้อย

ส่วนที่ไม่รายงานประชาชนว่าแต่ละช่วงมีผู้ป่วยอยู่เท่าไรนั้น เพราะเกรงว่าจะทำให้ประชาชนตกใจ เราต้องการที่จะให้ประชาชนรับทราบข้อมูลมากที่สุด ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปิดข่าวหรือดัดแปลง ข้อมูลที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีเป็นข้อมูลเดียวกับประชาชน การที่ประกาศยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นรายวันเพื่อให้ระมัดระวังตัวมากขึ้น

อนุทิน001

นายอนุทิน กล่าวว่าส่วนที่มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อมากขึ้น มาจากการที่พวกเขาประมาท อยู่ในสถานที่ที่ไม่ควรจะไป เช่น สนามมวย การติดเชื้อไม่ได้เกิดจากนักมวยอย่างเดียว แต่กรรมการ คนเชียร์ รวมถึงสภาพอากาศก็เอื้อต่อการติดเชื้อ และการติดเชื้อจำนวนมาก ตนไม่ใช้คำว่า วงกว้าง เพราหากเข้าระยะ 3 ได้ ต้องแพร่เชื้อเป็นวงกว้างและหาสาเหตุไม่ได้ แต่ตอนนี้เรายังหาได้ว่าคนไปสถานที่แห่งใด มีปัจจัยแพร่เชื้อชัดเจน ช่วง 2-3 วัน ซึ่งมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 60-70 คน มาจากที่เดียวกัน

“ขอขอบคุณบุคลากรทางแพทย์และประชาชน ที่ให้ความร่วมมือและเข้าใจกับสธ. ในการต่อสู้กับโรคนี้ พลังของความร่วมมือประชาชน จะทำให้เอาชนะโรคนี้ได้  บุคลากรทางแพทย์ของสธ.เคยสู้กับโรคร้ายแรงมากแล้วหลายครั้งในช่วง 15 ปี ทุกคนมีประสบการณ์ พวกเรายังมีความเป็นหนึ่งเดียวไม่มีแตกแยก ไม่มีความขัดแย้งใดๆ”

นายอนุทิน กล่าวว่าสาเหตุที่ต้องปิดสถานที่ต่างๆ ใน กทม.และปริมณฑล 14 วันนั้น เราขอให้เจ้าของสถานที่ใช้ช่วงเวลาดังกล่าวทำบิ๊กคลีนนิ่ง โดย สธ.จะเข้าไปให้คำแนะนำว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความปลอดภัย ภายในระยะเวลา 14 วัน จะพิจารณาว่าได้ทำให้สถานที่สะอาดเพียงพอหรือไม่ และจะเปิดในเวลาที่เหมาะสมต่อไป เข้าใจถึงความเดือดร้อนของผู้เกี่ยวข้อง แต่เราต้องคำนึงถึงความปลอดภัยก่อน

เมื่อถามว่า หากเกิดเหตุการณ์เหมือนกรณีคนจีนโดดโรงแรมเสียชีวิต ไม่มีเจ้าหน้าที่กล้าเข้าไปเก็บศพ เพราะเกรงว่าจะติดเชื้อไวรัสโควิด-19  นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงและโฆษก สธ. กล่าวว่า กรณีดังกล่าวต้องขออภัย ปกติแพทย์ต้องประเมินว่าเป็นคนกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ ถ้ามีความเสี่ยงจะต้องมีการประสานงานไปทางหน่วยงานที่เราอบรมไว้แล้ว เช่น เจ้าหน้าที่กู้ภัย แต่ว่าบางช่วงอาจจะขาดอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ชุด PPE โดยตั้งแต่นี้ไปเราได้นำเรื่องมาหารือถึงการทำงาน หากพบว่ารายไหนมีความเสี่ยงจะนำมาตรฐานการเก็บศพมาใช้

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight