Politics

ศาลปกครองพิพากษา ‘กกต.’ชดใช้เงิน 2 ล้านให้ ‘ภุชงค์’ เลิกจ้างไม่ชอบ

ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชดใช้เงินให้กับนายภุชงค์ นุตราวงศ์ อดีตเลขาธิการ กกต. จากเหตุเลิกสัญญาจ้างก่อนกำหนดไม่ชอบ จำนวน 2,010,380 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด

คดีดังกล่าวนายภุชงค์ ยื่นฟ้อง กกต.และสำนักงาน กกต. เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-2 หลัง กกต.ชุดที่มีนายศุภชัย สมเจริญ เป็นประธาน  มีมติเลิกจ้างเป็นเลขาธิการ กกต.ก่อนครบกำหนดสัญญาจ้างด้วยเหตุผล ไม่ผ่านผลการประเมินการปฏิบัติงาน ปีงบประมาณ 2558 ซึ่งนายภุชงค์เห็นว่า เป็นการเลิกจ้างไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่เป็นธรรมต่อตนเอง จึงได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองขอให้เพิกถอนประกาศ กกต.ฉบับลงวันที่ 8 ธันวาคม 2558 ที่ให้นายภุชงค์ พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการ กกต. และให้สำนักงาน กกต.ชดใช้ค่าเสียหายเกี่ยวกับการค่าจ่าง ค่าตอบแทน รวมทั้งค่าเสียหายต่อชื่อเสียงกรณีเลิกจ้างก่อนครบกำหนดสัญญา รวม 7,060,380 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

ภุชง88

ศาลให้เหตุผลว่า กกต.ได้กำหนดแบบประเมินการปฏิบัติงานของนายภุชงค์ ในฐานะเลขาธิการ กกต. 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 การประเมินผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติงานของนายภุชงค์ตามที่ กกต.เห็นชอบแล้ว ค่าคะแนน 70 คะแนน ส่วนที่ 2 การประเมินผลการดำเนินงานตามมติของ กกต.หรือตามที่ผู้ว่าจ้าง หรือ กกต.มอบหมาย ค่าคะแนน 30 คะแนน รวม 100 คะแนน

ต่อมาปีงบประมาณ 2558 กกต.มีมติให้นายภุชงค์ ปฏิบัติงานเพิ่มเติม จำนวน 9 โครงการ/กิจกรรม และดำเนินการโครงการประชาสัมพันธ์เชิงรุก โดยกำหนดแบบประเมินเป็น 4 หัวข้อหลัก คือ 1.การดำเนินการตามแผนปฏิบัติงานของนายภุชงค์ตามที่ กกต.ให้ความเห็นชอบแล้ว หรือตามข้อที่มีบันทึกแก้ไขเพิ่มเติม คะแนนร้อยละ 30 โดยพิจารณาตามโครงการ/กิจกรรมตามแผนปฏิบัติงาน ปีงบประมาณ 2558 จำนวน 10 โครงการ/กิจกรรม 2.การดำเนินงานตามมติของ กกต.ตามที่กำหนดในบันทึกแก้ไขเพิ่มเติมสัญญา  ซึ่งรวมโครงการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ค่าคะแนนร้อยละ 30

3.การบริหารตามหลักธรรมาภิบาล โดยพิจารณาจากพฤติกรรมค่าคะแนนร้อยละ 20 และ 4.งานท้าทายเพื่อพัฒนาองค์กร  ค่าคะแนนร้อยละ 20 ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาจ้างขึ้นใหม่ แต่ปรากฏว่าการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาจ้างดังกล่าวยังไมมีผลโดยสมบูรณ์  เนื่องจาก นายภุชงค์ ไม่เห็นด้วยกับร่างบันทึกแก้ไขสัญญาจ้าง และสงวนสิทธิไม่ยอมรับการประเมิน

ดังนั้นการที่คณะอนุกรรมการเพื่อประเมินผลการปฏิบัติงานได้นำแบบประเมินผลการปฏิบัติงานที่มีการเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การประเมินขึ้นใหม่ในสาระสำคัญ แตกต่างจากที่กำหนดไว้ในสัญญาเดิม และเป็นการเพิ่มเติมแบบการประเมินมาใช้ประเมินผลการปฏิบัติงานนายภุชงค์ ปีงบประมาณ 2558 ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 มาแล้ว 6 เดือน จึงเป็นการประเมินการปฏิบัติงานที่ไม่เป็นธรรมต่อนายภุชงค์ และไม่ชอบด้วยเงื่อนไขของสัญญาจ้าง

และการที่ กกต. มีมติเลิกจ้างนายภุชงค์โดยอ้างผลการประเมินการปฏิบัติงานดังกล่าวและมีประกาศ กกต. เรื่องให้เลขาธิการ กกต.พ้นจากตำแหน่ง ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2558 จึงเป็นการเลิกจ้างนายภุชงค์ ก่อนครบกำหนดสัญญาจ้างที่ไม่ชอบด้วยสัญญาจ้าง โดยไม่จำต้องเพิกถอนประกาศ กกต.ดังกล่าว ตามคำขอของนายภุชงค์ เนื่องจากมีผลเป็นเพียงการบอกเลิกจ้างเป็นหนังสือ

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight