“นายกรัฐมนตรี” ย้ำกลางวงสัมมนาภาคเอกชนอังกฤษ ไทยเดินหน้าเลือกตั้งตามโรดแมป พร้อมยันเศรษฐกิจไทยเติบโตดีต่อเนื่อง
สำนักข่าวไทย รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานกล่าวเปิดงานสัมมนา Thailand Business Forum ในหัวข้อ Transforming Thailand ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรม Landmark กรุงลอนดอน มีนักธุรกิจของสหราชอาณาจักรเข้าร่วมกว่า 200 คน โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเข้าพบกับนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นสำหรับการเยือนครั้งแรกในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยทั้ง 2 ประเทศพร้อมร่วมมือในด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน
ทั้งนี้ ไทยและสหราชอาณาจักรมีความสัมพันธ์มากกว่า 400 ปี โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่มีความแนบแน่นยาวนาน ปัจจุบันการค้าระหว่างประเทศสหราชอาณาจักรเป็นคู่ค้าอันดับ 18 ของไทย มีมูลค่าการค้ารวม 225,833 ล้านบาทและหวังว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ด้านการลงทุนสหราชอาณาจักรได้เข้ามาลงทุนในไทยทั้้งภาคอุตสาหกรรมและบริการ เช่น ภาคยานยนต์ อากาศยาน อุปกรณ์การแพทย์ ดิจิทัลและค้าปลีก รวมถึงยังใช้ไทยเป็นฐานการผลิตส่งออกมาเป็นเวลานานแล้ว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวชักชวนให้ลงทุนในประเทศไทย โดยอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยปรับตัวดีขึ้นมาโดยตลอด ในไตรมาสแรกของปี 2018 ขยายตัวสูงถึง 4.8% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 5 ปี โดยรัฐบาลยืนยันที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ควบคู่ไปกับการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานครั้งสำคัญที่สุดปรับปรุงเส้นทางคมนาคม และการขนส่ง รถไฟความเร็วสูง ทางด่วน และระบบขนส่งสาธารณะแบบราง รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานอื่นที่มีความจำเป็นต่อการรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเสริมสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจน รัฐบาลได้ดำเนินโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
“รัฐบาลไทยดำเนินนโยบายบนพื้นฐานของนโยบายเศรษฐกิจเสรี เปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศและการมีส่วนร่วมของนานาชาติ นายกรัฐมนตรีจึงขอใช้โอกาสนี้เชิญชวนให้นักธุรกิจเชื่อมั่นและพิจารณาประเทศไทยเป็นฐานการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อประโยชน์ในธุรกิจการค้า ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสหราชอาณาจักรให้มากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องการเมือง การเลือกตั้งจะมีขึ้นในต้นปีหน้า ซึ่งเป็นไปตามโรดแมป และเรื่องสิทธิเสรีภาพ ขออย่ารับข้อมูลจากโซเชียลมีเดียเพียงอย่างเดียว แต่ให้สอบถามและรับข้อมูลที่น่าเชื่อถือจากเอกอัครราชทูต การเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืน ขอให้มั่นใจว่าจะเป็นการวางรากฐานสำคัญในการลงทุนสร้างความเข็มแข็งให้ภาคธุรกิจด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว