Politics

‘ผบ.ทบ.’ ลั่นกลุ่มเดิมใช้คนหน้าใหม่ วางระเบิดป่วนกรุง

พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ( ผบ.ทบ.) ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) กล่าวถึงเหตุระเบิดหลายจุดในกรุงเทพฯ ว่าฝ่ายความมั่นคงได้แจ้งเตือนมาระยะหนึ่งแล้ว  ได้ประสานงานทั้งกอ.รมน. เหล่าทัพ ตำรวจ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดช่วงนี้

หลังจากเกิดเหตุที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงบ่ายวานนี้ (1ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการหน่วยงานความมั่นคง โดยโทรศัพท์สายตรงไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ให้ดูแลสถานการณ์ด้วย เหมือนว่านายกรัฐมนตรีกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ในจุดที่ 2 และ 3 ตามมา

อภิรัชต์ คงสมพงษ์

ทั้งนี้ ตั้งข้อสังเกตว่าลักษณะเหตุการณ์รูปแบบการก่อเหตุคล้ายกับเหตุการณ์ในปี 2549 เป็นกลุ่มคนเดิมๆ แนวคิดเดิมๆ มาจากสำนักเดิมๆ ที่เคยระเบิดป้อมตำรวจหลายจุด

พล.อ. อภิรัชต์ กล่าวว่าสิ่งที่ตนเป็นห่วงคือ จะมีฝ่ายการเมือง หรือพวกที่ไม่หวังดีกับประเทศ มาใส่ความว่า ฝ่ายความมั่นคง ทำเรื่องแบบนี้เอง  เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ทั้งที่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากกลุ่มเดิมๆ ความคิดเดิมๆ คนสั่งการคนเดิม แต่คนลงมืออาจเป็นคนหน้าใหม่

“นี่คือสิ่งบอกเหตุทางการเมือง เกิดจากกลุ่มที่มีความคิดแบบนี้  สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นสิ่งบอกเหตุ ว่าอาจจะมีครั้งต่อไปเกิดขึ้นอีก แต่ขอให้มั่นใจว่า นายกฯ และฝ่ายความมั่นคง สามารถควบคุมสถานการณ์ได้” พล.อ. อภิรัชต์ กล่าว

ขณะนี้ ตำรวจจับได้ 2 คนแล้ว อยู่ระหว่างการขยายผล  ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก และขอความร่วมมือหากพบบุคคลต้องสงสัย หรือสิ่งต้องสงสัย ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่  แต่อย่าหลอกกัน จะสร้างความปั่นป่วน ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ โดยเฉพาะเรื่องของความเชื่อมั่น

ส่วนที่ ผู้ตัองสงสัย 2 คน มาจากภาคใต้นั้น พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเอาคนที่มาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขึ้นมาทำหรือไม่ก็ตาม แต่คนที่อยู่เบื้องหลัง ก็ยังเป็นกลุ่มเดิมๆ แต่ไม่ต้องห่วง ท่านนายกรัฐมนตรีดูแลได้ พวกเราก็ดูแลอยู่ จะไม่ให้เกิดอีก

เมื่อถามว่า เหตุที่เกิดขึ้นหน้าหน่วยทหาร ถือเป็นการท้าทายนายกรัฐมนตรี ที่คุมทหาร คุมตำรวจ ด้วยหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ บอกว่า อย่าเรียกว่าท้าทาย คนที่จะทำ ก็จ้องหาช่องโหว่อยู่แล้ว  แต่มันเป็นสิ่งบอกเหตุว่า ต่อไปอาจจะมีการเอาเรื่องแบบนี้มาใช้หวังผลทางการเมือง

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight