“เรืองไกร” จ่อบุกทำเนียบร้อง “บิ๊กตู่” ใช้อำนาจ ม.44 จัดการ “อุตตม” ปมปล่อยกู้กรุงไทย อ้างกฎหมายเขียนชัด รัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แบบสรรหา และอดีตผู้สมัครสมาชิกผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เปิดเผยว่า ในเวลา 11.00 น. วันพรุ่งนี้ (8 ก.ค.) จะไปยื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ดำเนินการกับนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในกรณีที่นายอุตตม ได้อนุมัติสินเชื่อวงเงิน 9,900 ล้านบาท เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย
แม้ศาลได้มีคำพิพากษาคดีดังกล่าวไปแล้วว่า นายอุตตมไม่ถูกฟ้องและออกมาประกาศว่าไม่มีความผิดก็ตาม แต่ขอให้พิจารณาความเหมาะสมว่า การที่นายอุตตมจะให้ไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ 2/1 อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญตามมาตรา 160 (4) หรือไม่ เพราะกฎหมายบัญญัติไว้ชัดเจนว่า รัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
ทั้งนี้ นายเรืองไกรอ้างว่า คดีที่ศาลมีคำพิพากษาแล้วนั้น เกิดขึ้นในสมัยที่นายอุตตมเป็นกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทยอยู่ด้วย โดยคำพิพากษาศาลฎีการะบุไว้ส่วนหนึ่งว่า คณะกรรมการบริหารจะมีเจตนาฝ่าฝืนประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องการให้สินเชื่อที่เล็งเห็นว่าจะเรียกคืนไม่ได้แล้ว คณะกรรมการบริหารยังมีเจตนาช่วยเหลือจำเลยได้รับอนุมัติสินเชื่อโดยไม่ได้รักษาประโยชน์ของธนาคารผู้เสียหาย ซึ่งในคำพิพากษานี้ย่อมหมายรวมถึงนายอุตตมด้วย
