ซูเปอร์โพล เผยผลโพล สังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ในสายตาของประชาชน หลังสงกรานต์ คนไทย 81.9% กลัวเงินไม่พอใช้ กลัวเศรษฐกิจแย่ ข้าวของราคาแพง ทำให้กลับมาทุกข์ใจเหมือนเดิม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง สังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ในสายตาของประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ รวม 1,215 ราย ดำเนินโครงการ ระหว่างวันที่ 15-19 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา
เมื่อสอบถามถึงดัชนีความสุขคนไทยหลังสงกรานต์พบว่า จำนวนมากหรือ 40.7% กลับมารู้สึกทุกข์เหมือนเดิม ถึง ทุกข์มากขึ้น เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ไม่มีงานทำ สุขภาพไม่ดี มีปัญหาครอบครัว ยาเสพติด มลพิษ ความวุ่นวายการเมือง และความไม่ปลอดภัย
ในขณะที่ 24.8% รู้สึกกลาง ๆ ไม่สุข ไม่ทุกข์เพราะไม่เห็นมีอะไรดี ทรง ๆ มีขึ้น ๆ ลง ๆ ยังมองไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไร เป็นต้น และ 34.5% มีความสุข เหมือนเดิมถึง เพิ่มขึ้น เพราะ ความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว การงานอาชีพดี ความสัมพันธ์ของคนในชุมชน เพื่อนดีเป็นกัลยาณมิตร ทำบุญเข้าวัด สมาธิวิปัสสนา เป็นต้น
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนว่า แม้วันหยุดเทศกาลสงกรานต์ จะช่วยฟื้นฟูจิตใจบางส่วน แต่ความทุกข์จากปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมยังคงหนักหน่วงในมุมมองประชาชน
ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อสอบถามถึงความรู้สึกปลอดภัย และ รู้สึกตื่นตกใจต่อคนหรือเจ้าหน้าที่รัฐติดอาวุธ พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 68.2% รู้สึก ตกใจ และไม่เชื่อมั่น ต่อเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อเห็นกลุ่มคน ขบวนการออกมาคุกคามประชาชนและก่อความไม่สงบในที่สาธารณะ
อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือ 62.4% รู้สึก ปลอดภัย อุ่นใจ เมื่อเห็น ตำรวจ ออกตรวจตรา หรืออยู่ในที่เกิดเหตุ ขณะที่ 60.5% รู้สึก เชื่อมั่น เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่รัฐออกมาชี้แจงข้อสงสัยได้ดีมีเยียวยาความเสียหาย ส่วนอีก 57.8% รู้สึก ปลอดภัย สบายใจ เมื่อมีเจ้าหน้าที่รัฐออกให้บริการอำนวยความยุติธรรม และ 54.1% รู้สึก ตื่นตกใจ เมื่อเห็นทหาร หรือ คนแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่รัฐออกมาถืออาวุธ
สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า ศรัทธา ของประชาชนต่อรัฐ ไม่ได้ขึ้นกับอาวุธหรืออำนาจ แต่ขึ้นอยู่กับ พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐ และ การสื่อสาร มากกว่า อย่างไรก็ดี ผลสำรวจสะท้อนด้วยว่า ตำรวจ ยังเป็นสัญลักษณ์ของความหวังและความมั่นใจในระดับปฏิบัติการจริง โดยเฉพาะเมื่อตำรวจทำหน้าที่เชิงผู้พิทักษ์ ที่ให้บริการประชาชนอย่างใกล้ชิด
ที่น่าเป็นห่วงคือ เมื่อสอบถามถึง ความหวาดกลัวต่อภัยเศรษฐกิจ พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 81.9% กลัวเงินไม่พอใช้ กลัวเศรษฐกิจแย่ ข้าวของราคาแพง ค้าขายไม่ดี, 75.2% กลัวเงินออม เงินเก็บ ลดลง กลัวเงินหมด, 62.2% กลัวนโยบายรัฐบาลทำไม่ได้จริง กลัวนโยบายรัฐมีผลต่อเงินในกระเป๋า, 61.8% กลัวสงครามการค้าโลก กลัวราคาน้ำมันพุ่ง กลัวภาษี และ 53.5% กลัวตกงาน กลัวถูกลดเงินเดือน กลัวถูกลดชั่วโมงทำงาน ตามลำดับ
ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาเชิงปากท้อง ยังเป็นความกังวลอันดับหนึ่งที่ประชาชนสัมผัสได้ชัดเจนที่สุด นี่ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจภาพใหญ่ แต่คือความทุกข์ของชีวิตประจำวันที่เกิดขึ้นจริงในตลาดสด ที่ทำงาน และที่บ้าน
นอกจากนี้ ยังสะท้อน ความรู้สึกไม่มั่นคงทางการเงิน ที่กำลังลามจากภาวะเงินไม่พอใช้ ไปสู่ความกลัวว่าจะไม่มีกันชน ป้องกันตนเองในอนาคต แสดงให้เห็นว่า ประชาชนกำลังเข้าสู่ โหมดของการเอาตัวรอด มากกว่าการลงทุนเพื่อชีวิต
ดังนั้น การปรับตัวของประชาชน การออกนโยบายรัฐบาลใหม่ ๆ และเศรษฐกิจระหว่างประเทศ จึงเป็นกลไกสำคัญในการฟื้นศรัทธาและลดความหวาดกลัวต่อภัยเศรษฐกิจของประชาชน
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ที่น่าสนใจคือ ความนิยมต่อนายกรัฐมนตรี ผลสำรวจของซูเปอร์โพล พบว่าส่วนใหญ่หรือ 60.3% เชื่อมั่นมากถึงมากที่สุดต่อนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เพราะนโยบายตอบโจทย์ช่วยเหลือคนรายได้น้อย แก้ปัญหาเศรษฐกิจ เป็นผู้หญิงคนรุ่นใหม่ เก่ง ทำงานเร็ว ได้บารมีจากพ่อ ภาพลักษณ์ส่วนตัว รักครอบครัว ดูดีมีสง่า คิดอ่านพูดทันสมัย สื่อสารตรงประชาชน และปรับตัวเก่ง เป็นต้น
ในขณะที่ 24.8% เชื่อมั่นน้อย ถึงไม่เชื่อมั่นเลย เพราะขาดประสบการณ์ เป็นเครือข่ายตระกูลการเมือง ยังไม่เห็นผลงานชัดเจน มีหลุดอารมณ์ดูไม่ดี กังวลผลของนโยบายบางอย่าง ยังไม่เด็ดขาด และเห็นแก่พวกพ้อง เป็นต้น และ 14.9% ไม่มีความเห็น
ผลสำรวจนี้สะท้อนให้เห็นว่า นางสาวแพทองธารได้รับแรงสนับสนุนในระดับที่มั่นคง แต่ไม่ใช่ไร้ข้อท้าทาย โดยเฉพาะจากกลุ่มที่เฝ้าจับตามองด้วยความระแวดระวัง
ปัจจัยสนับสนุนความเชื่อมั่น: ผู้นำรุ่นใหม่ ผู้หญิงเก่ง สื่อสารตรงใจ
เหตุผลที่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อมั่น ได้แก่ ภาพลักษณ์ของ คนรุ่นใหม่ ที่เก่ง ทำงานเร็ว และพูดจาทันสมัย เป็นผู้หญิงที่สะท้อนความนุ่มนวลและเข้าถึงได้ ในขณะที่ยังแสดงออกถึงความสามารถ นโยบายที่ประชาชนมองว่า ตอบโจทย์คนรายได้น้อย และ ช่วยเศรษฐกิจฐานราก การสื่อสารที่ ตรงไปตรงมา และการปรับตัวเก่งในสถานการณ์ใหม่ ๆ
นี่คือ สูตรผสมระหว่างภาพลักษณ์กับเนื้อหาทางนโยบาย ที่ทำให้เธอกลายเป็น ความหวังใหม่ ของประชาชนในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ปรับ ครม. วันไหนดี ‘นิด้าโพล’ เผย 48.24% อยากให้ปรับเร็วที่สุด ‘พาณิชย์’ มาวิน
- ‘ซูเปอร์โพล’ เปิดผลสำรวจประชาชน 74.2% เชื่อหลังสงกรานต์ การเมืองเปลี่ยนแปลง
- โหนดราม่าร้อน ทราย มนุษย์เงือก ‘ประยงค์’ เสนอตัวเสียบตำแหน่งที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานฯ ขอ 12 เดือนแก้ปัญหา
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook : https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X : https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram : https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg