“อุตตม” มั่นใจ “พลังประชารัฐ” ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เผยสัปดาห์หน้าเรียกประชุมสส.ใหม่ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนทำงานในสภา ย้ำอย่าหวั่นสว.วางตัวไม่เป็นกลาง ชี้ควรให้โอกาสทำหน้าที่ก่อน
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวภายหลังร่วมกับจิตอาสา ในงาน” Big Cleaning Day ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ถึงทิศทางการเมืองของพรรค ว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมสัมนา ส.ส. ของพรรคทั้งหมด เพื่อเตรียมการซักซ้อม เนื่องจากพรรคมี ส.ส. ใหม่เป็นจำนวนมากที่ไม่เคยเข้าสภามาก่อน ขณะเดียวกัน ในส่วนของงานการเมืองพรรคก็จะเดินหน้าประสานพรรคอื่นๆที่ร่วมอุดมการณ์และสนใจมาร่วมกันตั้งรัฐบาล
ทั้งนี้ มั่นใจว่าพรรคจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และได้มีโอกาสทำงานกับพรรคซึ่งมีแนวทางการทำงานแบบเดียวกัน แต่ต้องรอให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน ส่วนตัวเลขที่มีการประเมินออกมาว่า พลังประชารัฐจะรวมเสียงได้ 256 เสียงนั้น ถือเป็นการประเมินตามปกติ ซึ่งพรรคก็ประเมิน หากวันนี้ (8พ.ค.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองผลเรียบร้อยก็จะมาพูดคุยกัน เพราะตัวเลขจะชัดเจนขึ้น
ส่วนประเด็นว่าที่ ส.ส. ของพรรค ถูกยื่นเรื่องเรียนต่อ กกต. กรณีการถือหุ้นสื่อ รวมถึงตนเองในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นผู้เซ็นรับรองนั้น ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้สมัคร และว่าที่ ส.ส. เกือบทุกพรรค โดยได้มีการหารือแนวทาง และดูเป็นรายกรณีไป หากเกี่ยวกับพรรค ก็พร้อมชี้แจงในทุกประเด็น และเดินตามขั้นตอนไม่มีอะไรมากกว่านั้น สำหรับกระแสข่าวคัดค้านให้ ส.ว. เลือกนายกรัฐมนตรีนั้น พรรคยืนยันในเรื่องที่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้กำลังใช้ครั้งแรก ควรเคารพกติกาปัจจุบัน เดินตามนั้น บทบาท ส.ว. เป็นอย่างไร ก็ให้เป็นตามนั้น และควรให้เกียรติ ให้โอกาส ส.ว ได้ทำหน้าที่ อย่าไปพูดหรือตีกันไว้ก่อนว่ามาแล้วจะเข้าข้าง หรือช่วยฝ่ายไหน เพราะบ้านเมืองต้องเดินหน้า
นายอุตตม กล่าวต่อว่า เช่นเดียวกับกรณี 15 รัฐมนตรีลาออกเพื่อมารับตำแหน่ง ส.ว. ก็ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ โดยลองพิจารณาดูทุกคนที่ลาออก ก็มีคุณสมบัติพร้อม เพราะตนเคยร่วมงานกันมา ประเทศต้องการคนมีความสามารถ และคนเหล่านี้มีความพร้อมทำงาน อย่าไปเกี่ยงว่า เคยทำงานในรัฐบาลแต่วันนี้ไปอยู่ฝ่ายนิติบัญญัติจะไม่เหมาะ เพราะทุกคนมีคุณสมบัติ ส่วนการปฏิบัติตัวก็อยู่ในสายตาประชาชน
ส่วนประเด็นการจัดสรรตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนตัวไม่ขอให้ความเห็น เพราะยังไม่ถึงเวลาและมีอีกหลายขั้นตอนที่จะไปสู่การตั้ง ครม. ยังไม่รู้ มีใครอยู่บ้าง เพราะพรรคยังไม่ได้คุยเรื่องตำแหน่ง ตอนนี้เอาเรื่องของพรรคก่อน เพราะการจัดสรรตำแหน่งต้องหารือกับพรรคร่วมด้วย ว่าบทบาทของพรรคต่างๆจะเป็นยังไง ทำงานยังไง และยังบอกไม่ได้ว่าจะชัดเจนเมื่อไหร่เกี่ยวกับหน้าตาของพรรคร่วมรัฐบาล
