Politics

‘นายกรัฐมนตรี’ นั่งหัวโต๊ะประชุมทีมไทยแลนด์ ยืนยันรัฐบาลอยู่ครบเทอม!

“นายกรัฐมนตรี” นั่งหัวโต๊ะประชุมเอกอัครราชทูตกงสุลใหญ่-ทีมไทยแลนด์ประจำภูมิภาคอเมริกา ยืนยันรัฐบาลอยู่ครบเทอม

ที่นครลอสแอนเจลิส นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมเอกอัครราชทูตกงสุลใหญ่ และหน่วยงานทีมประเทศไทยประจำภูมิภาคอเมริกา อาทิ แคนาดาอาร์เจนตินา เม็กซิโก บราซิล ชิลี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงต่างประเทศ เพื่อมอบนโยบายและแนวทางขับเคลื่อนความสัมพันธ์และความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคอเมริกา ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาที่เน้น ประชาชนเป็นศูนย์กลางและการปกป้องดูแลผลประโยชน์ของไทยและคนไทยในต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรี

โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวทักทายทุกภาคส่วนที่เข้าร่วมประชุมทั้งในห้องประชุมและผ่านระบบซูมว่า ยินดีที่ได้มาเจอทุกคน ก่อนจะเดินทางไปประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ถือเป็นเรื่องดีที่ได้คุยกับทูตทุกประเทศ ได้เปิดมุมมอง และได้รู้ถึงความเป็นอยู่ของคนไทยในต่างประเทศ การมาวันนี้เพื่อเน้นย้ำนโยบายของรัฐบาล และล่าสุดสหรัฐได้รัฐบาลใหม่ซึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่นอน รัฐบาลพยายามจะเตรียมความพร้อมทั้งในประเทศและต่างประเทศ และขอเน้นย้ำการทูตเชิงรุกที่เป็นทัพหน้าของประเทศ

“อยากให้ทูตทุกท่านประสานงานร่วมกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และรัฐบาล เรื่องการลงทุนจะเกิดการทำงานเต็มรูปแบบ ประเทศไทยจะแข็งแรง และขอให้ทูตสร้างความเข้าใจว่ารัฐบาลไทยทำอะไรอยู่ ซึ่งขณะนี้ไทยยังประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจจำเป็นต้องช่วยกัน รัฐบาลพยายามทุกทางที่จะนำเงินเข้ามาในประเทศให้ได้มากที่สุด จึงอยากให้ทูตช่วยเน้นเรื่องการลงทุนเป็นพิเศษ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์

นางสาวแพทองธาร กล่าวอีกว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาเน้นย้ำนโยบายรัฐบาลด้วยตัวเองที่ยืนยันว่าประชาชนเป็นศูนย์กลาง และขอบคุณผู้บริหารสถานทูตในแต่ละประเทศที่ได้ดำเนินการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไทยและคนไทยในต่างแดน ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศในการสนับสนุนคนไทยในต่างประเทศ และนักธุรกิจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งทีมไทยแลนด์เปรียบเสมือนทัพหน้าของประเทศ โดยขอให้ทีมไทยแลนด์ที่ประกอบด้วยภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งเอกอัครราชทูต ทูตพาณิชย์ ผู้แทนของบีโอไอต้องช่วยกันเร่งดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากไทยยังประสบปัญหาเศรษฐกิจ จำเป็นต้องหารายได้ใหม่ ๆ เข้าประเทศเพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาเติบโตอีกครั้ง

“ขอให้มองหาโอกาสและความร่วมมือที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน และขอให้เร่งเชิญชวนให้เกิดการลงทุนใหม่ ๆ รวมถึงนำแผนนโยบายด้านต่างประเทศของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติ เพื่อสร้างเครือข่ายมิตรประเทศของไทยในเวทีโลก หรือ Friends of Thailand กับภาคส่วนต่าง ๆ ของต่างประเทศ เพื่อให้ประเทศไทย มีเศรษฐกิจที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ จุดยืนของรัฐบาลอยากเห็นประชาชนเป็นศูนย์กลาง และอยากทำให้ประเทศไทยพร้อมและรัฐบาลพยายามสร้างโอกาสในประเทศมากขึ้นเพื่อสร้างอนาคตที่ดี รองรับให้คนไทยทำงานในประเทศ ตนคือหัวหน้าทีมประเทศไทยมีหน้าที่ที่จะต้องช่วยกันพัฒนาประเทศไทยให้สามารถแข่งขันกับนานาอารยะประเทศได้ ที่สำคัญประเทศไทยมีคนเก่งมาก แต่ส่วนหนึ่งทำงานอยู่นอกประเทศ รัฐบาลจึงตั้งใจจะทำให้ประเทศไทยเรามีความแข็งแรงทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้คนไทยมีโอกาสมากขึ้น เพื่อดึงคนไทยคนเก่ง ๆ ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศกลับมาเพื่อร่วมพัฒนาประเทศไทย จึงอยากให้ทูตเชิญชวนคนไทยกลับมาทำงานในประเทศไทยแม้จะเรียนจบในต่างประเทศ” นายกฯ กล่าว

ส่วนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ เป็นเรี่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ซึ่งเอกอัครราชทูต ประเทศชิลีได้รายงานว่าคนชิลีชื่นชอบภาพยนต์ไทยที่สามารถส่งออกไปต่างประเทศ โดยเป้าหมายรัฐบาลสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ในด้านการผลิตภาพยนตร์และ ซอฟต์พาวเวอร์ด้านต่างๆ เช่น การอบรม หรือ เปิดคอร์สพิเศษ จากทีมต่างประเทศกับบุคคลในอุตสาหกรรมไทย รวมทั้งด้านเทศกาล ซึ่งตนเองได้มีการเปิดโครงการ winter festival ซึ่งเป็นการประสาน กิจกรรมงานเทศกาลต่าง ๆ กับ การท่องเที่ยว ให้เมืองไทยเที่ยวได้ทั้งปี

นายกรัฐมนตรี

ซึ่งต้องขอให้เอกอัครราชทูตทุกท่านช่วยประชาสัมพันธ์ว่าประเทศไทยพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งก่อนเดินทางมาได้มีโอกาสประชุมตรวจความพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ได้มีการพัฒนาระบบตรวจคนเข้าเมืองที่ทันสมัย รวดเร็ว ซึ่งถือเป็นหน้าด่านที่สามารถอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวประเทศไทยได้ง่ายมากขึ้น

“การเมืองมีความมั่นคงพอสมควรแล้ว ฉะนั้นจะทำเรื่องนี้ให้แข็งแรงมากที่สุด เพื่อให้ต่างชาติเกิดความมั่นใจและนำเม็ดเงินมาลงทุนในประเทศไทย และในฐานะหัวหน้ารัฐบาลเราจะอยู่จนครบเทอมเพื่อให้การลงทุนมีความต่อเนื่อง เพราะแน่นอนว่าเทอมข้างหน้าอยากให้นำเรื่องนโยบายการลงทุนไปต่อ ไม่อยากให้ประเทศสะดุด เพราะเรื่องการเมืองในอดีตมักเป็นเช่นนั้น จึงอยากจะสร้างความเชื่อมั่นระยะยาว” นายกรัฐมนตรี กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK