“พรรคเพื่อไทย” เปิดแผนบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ สร้างประปาดีมีน้ำสะอาด รองรับทุกสภาพอากาศ พัฒนาชลประทานเพื่อการเกษตร
พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า แผนบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ สร้างประปาดีมีน้ำสะอาด รองรับทุกสภาพอากาศ พัฒนาชลประทานเพื่อการเกษตร ปรับปรุงระบบนิเวศ เพิ่มประสิทธิภาพการบำบัดน้ำเสีย
จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือการขยายตัวของชุมชนเมืองและอุตสาหกรรม ทรัพยากรน้ำซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งส่วนหล่อเลี้ยงสมดุลชีวิตหรืออาจเป็นวิกฤตในวันข้างหน้า จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบเพื่อสร้างความมั่นคง
รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ได้จัดทำ “แผน 3 ปี ด้านทรัพยากรน้ำและโครงการสำคัญ” ว่าด้วยการจัดการน้ำในภาพรวมและการเตรียมตัวเพื่อรับมือความเปลี่ยนแปลง ซึ่งประกอบไปด้วย 5 แผนงาน และ โครงการสำคัญ 3 ด้าน
โดยมีกรอบเป้าหมายคือ “นิเวศทรัพยากรน้ำได้รับการฟื้นฟู ส่งเสริมความมั่นคงน้ำด้านอุปโภคบริโภค
ความมั่นคงน้ำภาคการผลิตในพื้นที่เกษตรน้ำฝน บรรเทาอุทกภัยอย่างเป็นระบบ” โดยมีประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 6.2 ล้านครัวเรือน
ภายในแผนระยะ 3 ปี แผนบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลจะเป็นการจัดการทั้งระเบบ เริ่มต้นจากการดูแลจัดการน้ำในฐานะทรัพยากรสำคัญในภาพรวมคือน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภคในแผนงานที่ 1 และ 2 เน้นไปที่การก่อสร้าง ปรับปรุงสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องทั้งระบบน้ำประปาและระบบน้ำใต้ดิน เน้นการกระจายตัวและการเข้าถึงสู่ทุกครัวเรือน
สำหรับแผนงานที่ 3 และ 4 คือการวางยุทธศาสตร์ในการพัฒนาพื้นที่เพื่อรับความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศและความไม่แน่นอนของฝน เน้นการปรับปรุงระบบชลประทาน เพิ่มพื้นที่รับน้ำฝนทั้งในพื้นที่ทางการเกษตรและพื้นที่เมือง
เพื่อเป็นการปรับตัวและปรับปรุงระบบการรับน้ำท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง ในแผนการที่ 5 ก้าวไปสู่การวางโครงสร้างในระดับระบบนิเวศ เน้นการวางโครงสร้างการอนุรักษ์นิเวศทรัพยากรในพื้นที่สำคัญเช่นพื้นที่ต้นน้ำ นำมาตรการแก้ไขปัญหาโดยใช้ธรรมชาติเป็นพื้นที่ฐาน (Nature based Solution : NbS) เช่นการฟื้นฟูป่าต้นน้ำ การใช้หญ้าแฝกเพื่อลดการพังทลายของหน้าดิน และการใช้วิธีการอนุรักษ์ต่าง ๆ เพื่อร่วมป้องกันปัญหาที่เกี่ยวกับน้ำอย่างยั่งยืนต่อไป
นอกจากแผนงานทั้ง 5 แล้วนั้น ยังมีการกำหนดโครงการสำคัญที่แก้ไขปัญหาทรัพยากรน้ำอย่างครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน ซึ่งเป็นสายธารสำคัญที่ถูกกักเก็บเพื่อรองรับการใข้งาน ด้านการบรรเทาปัญหาอุกภัย และด้านการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ ก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสีย
ทั้งหมดนี้จึงเป็นแผนการจัดการน้ำทั้งระบบที่มองเห็นตั้งแต่การจัดการน้ำในฐานะทรัพยากรพื้นฐานของประชาชน ไปจนถึงการปรับเปลี่ยนวิธีคิดเช่นการมองเห็นการดูแลระบบนิเวศเพื่อร่วมรับมือความเปลี่ยนแปลงที่โลกและเรากำลังเผชิญ ไปจนถึงการเพิ่มพื้นที่เพื่อการรับน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ ดังคำแถลง ของนายกรัฐมนตรีแถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 11 – 12 กันยายน 2566 ความว่า
“รัฐบาลจะดูแลรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของประเทศซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญในการพัฒนาประเทศและส่งผลต่อสุขภาพประชาชน ส่งเสริมและเร่งฟื้นฟูความสมบูรณ์ของดิน และน้ำ คืนสู่ธรรมชาติ รักษาความสมดุลของระบบนิเวศและอนุรักษ์ความหลากหลายพันธุ์สัตว์ป่า แก้ไขปัญหา ความเสื่อมโทรมและมลภาวะเพื่อคืนสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่คนไทย พร้อมทั้งวางแผนรับมือและป้องกันวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต และรัฐบาลจะมุ่งเน้นการสร้างระบบสาธารณูปโภคให้เกิดสุขภาวะอนามัยที่ดีผ่านการพัฒนาระบบน้ำประปาเพื่อให้ประชาชนมีน้ำสะอาดอย่างทั่วถึง”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘จิราพร’ มั่นใจคดี ‘เศรษฐา’ ไม่กระทบดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อไทยเดินหน้าเต็มสูบ
- ‘เพื่อไทย’ ยึดตาม ‘อุ๊งอิ๊ง’ ยันพรรคไม่มีนโยบายขับใครออก ชี้ไม่ทำให้เสียสมาธิ
- ‘เศรษฐา’ เรียกรัฐมนตรีเพื่อไทยคุยก่อนประชุม ครม. ‘ภูมิธรรม’ บอกไม่รู้เรียกคุยเรื่องอะไร
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg