COVID-19

เปิดสาเหตุ โอไมครอนสายพันธุ์ย่อย KP.3 ขึ้นแท่นสายพันธุ์หลักระบาดในสหรัฐ 

ศูนย์จีโนมฯ เผยผลจากการกลายพันธุ์ สาเหตุโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย KP.3 กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในสหรัฐ

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics  เรื่อง เหตุใด โอไมครอนสายพันธุ์ย่อย KP.3 จึงกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในสหรัฐ

สายพันธุ์ย่อย KP.3

สายพันธุ์ โอไมครอนตัวใหม่อย่าง KP.3 กำลังระบาดหนักในสหรัฐ ข้อมูลล่าสุดของ US CDC ระบุว่า KP.3 พบได้ถึง 25% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น มาไขความกระจ่างผ่านการทำงานร่วมกันของยีนที่เรียกว่า epistasis

Epistasis คือปรากฏการณ์ที่การกลายพันธุ์ของยีนหนึ่ง ส่งผลต่อการแสดงออกของยีนอื่น และการศึกษาของเราชี้ให้เห็นว่า epistasis อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ KP.3 ระบาดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ

เรามาดูกันว่าการกลายพันธุ์สำคัญ ๆ ของ KP.3 ส่งผลอย่างไร ต่อความสามารถในการเข้าสู่เซลล์มนุษย์ ซึ่งวัดจากการจับกับ ACE2 receptor ที่เป็นประตูสำคัญที่ไวรัสโควิดใช้บุกรุกเซลล์

  • การกลายพันธุ์ Q493E เพียงอย่างเดียว ลดความสามารถในการจับ ACE2 ลงถึง 10 เท่า ซึ่งน่าจะทำให้ไวรัสแพร่เชื้อได้ยากขึ้น
  • การกลายพันธุ์ Q493E ร่วมกับ F456L หรือ L455S ยังคงลดความสามารถในการจับ ACE2 แม้จะไม่มากเท่า Q493E อย่างเดียว
  • แต่เมื่อ Q493E, F456L และ L455S เกิดขึ้นพร้อมกัน กลับช่วยให้ไวรัสจับ ACE2 ได้ดีขึ้น ทำให้มีโอกาสแพร่เชื้อและหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้ง่ายขึ้น เห็นได้ชัดจากกราฟเส้นสีส้มที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อมีการกลายพันธุ์ครบทั้ง 3 ตำแหน่ง

กราฟสีส้ม

ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่า การกลายพันธุ์ร่วมกันหลายตำแหน่งอาจทำให้ KP.3 ได้เปรียบในการแพร่ระบาด แม้การกลายพันธุ์เพียงตำแหน่งเดียวอาจไม่เป็นผลดีต่อไวรัส นี่แหละคือพลังของ epistasis!

การทำงานร่วมกันของยีน หรือ epistasis มีผลสำคัญต่อการวิวัฒนาการและการเกิดขึ้นของสายพันธุ์ใหม่ๆ ของ SARS-CoV-2 ไม่ว่าจะเป็น

1. การปรับสมดุลการกลายพันธุ์ ทำให้ไวรัสสามารถพัฒนาการกลายพันธุ์ที่เป็นผลดีต่อการอยู่รอดได้ แม้บางการกลายพันธุ์จะมีผลเสียเมื่อเกิดเพียงตำแหน่งเดียว

2. เพิ่มประสิทธิภาพการบุกรุกเซลล์ การกลายพันธุ์หลายตำแหน่งร่วมกันอาจช่วยไวรัสจับกับ receptor ในเซลล์มนุษย์ได้แน่นขึ้น ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

3. หลบหลีกภูมิคุ้มกัน เปลี่ยนแปลงโปรตีนสไปค์ให้ภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อหรือฉีดวัคซีนจับและทำลายไวรัสได้ไม่ดี

4. เพิ่มความทนทานต่อการรักษา ยากลำบากต่อยาต้านไวรัสในการทำงาน

ไวรัส 1

การทำความเข้าใจ epistasis ทำให้เราสามารถ

  • คาดการณ์ได้ว่าการกลายพันธุ์ใดจะมีแนวโน้มเกิดขึ้นและมีผลกระทบสูง
  • พัฒนาเครื่องมือเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ให้มีประสิทธิภาพ
  • พัฒนาวัคซีนและยาต้านไวรัสรุ่นใหม่ให้ตอบโต้ไวรัสกลายพันธุ์ได้ดีขึ้น
  • ปรับกลยุทธ์การป้องกันและรักษาให้ทันท่วงทีและเหมาะสมกับสถานการณ์

ดังนั้น การศึกษา epistasis จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เราเข้าใจและเตรียมรับมือกับวิวัฒนาการของไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดใหญ่ในอนาคต จากสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่อาจรุนแรงกว่าเดิม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

Avatar photo