“จุลพันธ์” ห่วงอภิปรายเดือด ใช้คำพูดแรง แนะรอสึนามิของการลงทุนจากต่างชาติ พร้อมยันประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีคนเดียว ชื่อ “เศรษฐา”
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงในญัตติอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่าเข้าใจว่าสมาชิกเข้าใจกันดีเรื่องข้อจำกัดของการใช้งบประมาณที่ทางรัฐบาลเผชิญมาในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะการใช้งบประมาณไปพลางก่อนปี 2566 นั่นคือพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณยังไม่ผ่านการเห็นชอบ ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านความเห็นชอบต่อร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2567 แล้ว และคาดว่าจะมีการประกาศใช้ในเร็ววัน หลังจากนั้นจะเป็นเครื่องมือกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนต่อไป
ทั้งนี้ ทางรัฐบาลมีการใช้งบประมาณไปพลางก่อน ผ่านเงินงบประมาณกว่า 40% เป็นงบในส่วนของเงินเดือน รายจ่ายประจำ การลงทุนที่มีการผูกพันมาก่อนหน้า เช่น การผูกพันในปี 2566 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2567 ไม่มีการลงทุนใหม่ และไม่มีโครงการที่รัฐบาลจะสามารถอนุมัติใด ๆ ที่จะเป็นการลงทุนใหม่ได้ นี่คือข้อจำกัดที่เราเผชิญมา
“ผมเป็นห่วงการอภิปรายพอสมควร เพราะมีการใช้คำพูดที่ค่อนข้างแรง เช่น มีเศรษฐีไหนจะโง่มาลงทุน ผมต้องเรียนว่านายกฯ ถึงแม้จะแสดงข้อห่วงใยในเรื่องของการที่นายกฯ เดินทางไปต่างประเทศ ไปแสวงหาเม็ดเงินลงทุน ไปแสวงหาพันธมิตรไปแสดงจุดยืนว่าประเทศไทยเปิดกลับมาสู่ตลาดโลกอีกครั้งหนึ่ง และในฐานะที่เป็น รมช.การคลัง” นายจุลพันธ์ กล่าว
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า ผมขอเรียนว่าสิ่งที่นายกฯ ได้ดำเนินไปได้รับสัญญาณในทางบวก จากผู้ลงทุน เอกชน จากนานาชาติ แต่ต้องยอมรับว่ากระบวนการลงทุนในลักษณะนี้ เงินแสนล้านไม่มีใครตัดสินใจได้ในวันเดียว หลังจากให้ความสนใจแล้ว ก็ต้องมีการติดตาม การพูดคุยเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ซึ่งรัฐมนตรีหลายท่านได้เดินทางไปต่างประเทศ รวมถึงผมได้มีโอกาสติดตามนายกฯไป และผมเชื่อว่าอีกไม่นานตัวเลขของการลงทุนสัญญาณเริ่มมามากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะประเทศไทยมีศักยภาพ และเราจะได้เห็นสึนามิของการลงทุนจากต่างชาติเกิดขึ้นในประเทศในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าแน่นอน จากการลงทุนของต่างชาติที่จะเข้ามา
ทั้งนี้ มีข้อห่วงใยในเรื่องสายงานการบังคับบัญชาถึงกรณีที่สรุปว่าประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังมีการสั่งการผ่านท่านใดอีกหรือไม่ ผมในฐานะที่เป็น 1 ในคณะรัฐมนตรีเชื่อว่าสามารถพูดแทนคณะรัฐมนตรีทุกคนได้ว่า สิ่งนี้เป็นจินตนาการของท่านเอง ประเทศไทยมีนายกฯ 1 ท่าน คือนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของคณะรัฐมนตรีและการดำเนินการของพวกเราขึ้นตรงต่อนายกฯ ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล เป็นไปตามกลไกของ ครม. และกลไกกฎหมายทุกประการ
“10 เมษายนนี้ มีข่าวดีให้คนไทยทุกคนแน่นอน” รมช.คลัง ยืนยัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ชัยธวัช’ จุดชนวนศึกซักฟอก! ฟาดรัฐบาลสมบัติผลัดกันชม ประชาธิปไตยไหลย้อนกลับ
- นายกฯ พร้อมตอบทุกข้อสงสัย ยันสิ่งที่รัฐบาลทำเพื่ออนาคตประเทศชาติ
- จับตา!! ศึกซักฟอกรัฐบาลวันแรก ‘ฝ่ายค้าน’ ถาม ‘เพื่อไทย’ กำลังทำเพื่อใคร?
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg