“พีมูฟ” ยันปักหลักชุมนุมข้างประตู 4 ทำเนียบฯ เมินตำรวจให้ย้ายไปหน้ายูเอ็น พร้อมออกประกาศ 4 ข้อ ปักหลักชุมนุมพีมูฟทวงสิทธิ ทวงสัญญาประชาชน
วันนี้ (5 ก.พ.67) ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ (P-move) ออกแถลงการณ์ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ฉบับที่ 1 เรื่อง ประกาศปักหลักชุมนุมพีมูฟทวงสิทธิ ทวงสัญญาประชาชน ระบุว่า
“นับเป็นเวลากว่า 3 เดือน หลังพวกเราขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ ได้ปักหลักชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นครั้งแรกในสมัยรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน พวกเราได้ลงแรง ลงใจ พัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายทั้ง 10 ด้านให้ปรากฏแก่สาธารณชน
ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ข้อเสนอเรื่องปากท้อง ที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย สิทธิในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและภัยพิบัติ สิทธิและสถานะบุคคล ความเป็นคนและศักดิ์ศรีของกลุ่มชาติพันธุ์ รวมถึงข้อเสนอว่าด้วยการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม การกระจายอำนาจ และร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชน ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม และ 16 ตุลาคม 2566
อย่างไรก็ตาม เราเห็นว่าการดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งเชิงนโยบายและรายกรณีของรัฐบาลชุดนี้ช่างล่าช้า ในหลายครั้งก็เฉไฉ ไม่ปฏิบัติตามที่ได้รับปากไว้กับประชาชน การกระทำตรงกันข้ามกับปากพูด เปิดทางให้ราชการใช้อำนาจกฎหมายที่ไร้ความเป็นธรรมไล่รุกชาวบ้าน
ทั้งการดำเนินคดี ยึดที่ทำกิน ขับไล่ประชาชนออกจากพื้นที่ดั้งเดิมของตัวเอง ซึ่งหายนะที่เกิดแก่ประชาชนคนยากคนจนเช่นนี้ ก็สืบเนื่องจากฝ่ายนโยบายมีความเพิกเฉย จิตใจที่เย็นชา และความหน้ามืดตาบอดจนมองไม่เห็นและไม่อาจรู้สึกร่วมไปกับความทุกข์ร้อนของประชาชน
เป็นต้นว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่ไม่เคยเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าพบ ไม่เคยมอบนโยบายอันเป็นประโยชน์และเป็นธรรมต่อการแก้ไขปัญหาและคืนสิทธิ์ให้ประชาชน ไม่กล้าหาญเพียงพอที่จะปรับแก้กฎหมายและนโยบายเดิมที่ล้าสมัยและเป็นภัยคุกคามต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากล เป็นเหตุให้ขณะนี้พีมูฟมีกรณีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากถึง 169 กรณี คิดเป็นจำนวนมากถึง 63.5 ของจำนวนกรณีปัญทั้งหมดในพีมูฟ และมีกรณีเร่งด่วนมากถึง 13 กรณี ที่ชาวบ้านกำลังถูกไล่ที่ จับกุมดำเนินคดี เสี่ยงคุกตะราง
และเป็นต้นว่าสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ที่กำกับดูแลโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งควบตำแหน่งประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ขณะนี้เราขอเรียนว่า สคทช. กำลังพยายามทำลายแนวทางสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ หรือ โฉนดชุมชน โดยการแบ่งแยก ยุยงให้ประชาชนในพื้นที่ต้องแตกแยกในเรื่องแนวทางแก้ปัญหา เป็นเครื่องมือของหน่วยงานราชการอื่นๆ ในการแย่งยึดที่ดินของประชาชนด้วยการบีบให้คนจนต้องรับโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามแนวทางของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งเป็นมรดกบาปจากรัฐบาล คสช.
เมื่อรัฐบาลบิดพลิ้ว หน่วยงานรุกไล่ เฉื่อยชาเฉไฉ ไม่แก้ปัญหา คนจนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ก็ถึงเวลาทวงสัญญาประชาชน วันนี้พวกเราพีมูฟขอประกาศเปิดศักราชการชุมนุมปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. เป็นต้นไปอย่างไม่มีกำหนด ณ ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล จนกว่าจะบรรลุข้อเรียกร้องทั้งหมด ได้แก่
1. เดินหน้าโฉนดชุมชน ยุติการคุกคามประชาชนด้วย คทช. โดยต้องเปิดประชุมคณะกรรมการโฉนดชุมชนและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
2. แก้ปัญหาเรื่องด่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเราขอเปิดเจรจากับรัฐมนตรี พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เพื่อหารือกรอบแนวทางการทำงานร่วมกันทั้งระบบรายกรณีและนโยบาย และหากไม่เปิดโอกาสให้เราได้เข้าพบ เราจะไม่ร่วมประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 7 ก.พ. นี้
3. เปิดประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบ ซึ่งมี ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นประธาน เพื่อนำข้อสรุปการแก้ไขปัญหาทั้งหมดเข้าสู่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ที่มี ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นประธานต่อไป
เรายืนยันว่าพร้อมปักหลักชุมนุมยาว และขอประกาศเชิญชวนพี่น้องประชาชนผู้รักความเป็นธรรมทั้งหลายร่วมให้การสนับสนุน ทั้งเสบียงอาหาร น้ำดื่ม ยาสามัญ เครื่องนอน เครื่องครัว และอุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ สำหรับการชุมนุมปักหลักค้างคืน รวมถึงขอเชิญชวนพี่น้องเข้าร่วมการชุมนุมของพวกเรากลุ่มพีมูฟได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลดุสิต เข้ามาประกาศคำสั่งให้ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมเป็นธรรม (พีมูฟ) ที่เข้ามาปักหลักบริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณประตู 4 นั้น มีความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ เหตุเป็นสถานที่ราชการ จึงแจ้ง ให้ทำการแก้ไขขนย้ายสถานที่ชุมนุม โดยประกาศคำสั่งดังกล่าว ระบุด้วยว่า
“ตามคำสั่งกองบังคับตำรวจนครบาล วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ขอให้ออกประกาศห้ามชุมนุมรอบทำเนียบรัฐบาลในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร โดยการจัดการชุมนุมของกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนและกีดขวางทางเข้าออกทำเนียบรัฐบาล”
ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลเขตดุสิต อ่านประกศคำสั่ง ดังกล่าวแล้วนั้นได้แจ้งให้ผุ้มาชุมนุมย้ายไปยังบริเวณหน้าองค์การสหประชาชาติ (UN) ภายในเวลา 12.00 น. ของวันนี้ (5 ก.พ. 67)
ทั้งนี้ ผู้มาชุมนุมในนามพีมูฟ ยืนยันจะปักหลักการชุมนุมบริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล อย่างไม่มีกำหนด จนกว่าการมาชุมนุมจะบรรลุตามเป้าหมาย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โดนหมด! คุก 4 เดือน ‘ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ-พิธา’ รอลงอาญา 2 ปี คดีแฟลชม็อบ
- ตำรวจสั่ง ‘ม็อบพีมูฟ’ ย้ายสถานที่ชุมนุม ออกจากทำเนียบรัฐบาล ระยะ 50 เมตร
- ศาลสั่งจำคุก 2 ปี ‘มายด์ ภัสราว’ ผิดม.112 ปราศรัยม็อบปี 64
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx