Politics

‘สมศักดิ์’ สวนหมัด ‘ศรีสุวรรณ’ กล่าวหาเรื่องเดิมซ้ำซาก ยันไม่พบทุจริตกำไลอีเอ็ม

“สมศักดิ์” โต้ “ศรีสุวรรณ” กล่าวหาเรื่องเดิม ยันไม่พบทุจริตกำไลอีเอ็ม สมัยนั่ง รมว.ยุติธรรม ชี้ กรมคุมประพฤติ เคยแจง กมธ.ไปหมดแล้ว มั่นใจไม่มีล็อกสเปก-ล็อบบี้

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นหนังสือถึง กมธ.กิจการศาลฯ ให้ตรวจสอบการทุจริตกำไลอีเอ็ม ของกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ในสมัยตนเป็น รมว.ยุติธรรม ว่า ตนได้ทราบเรื่องแล้ว นายศรีสุวรรณเป็นนักร้องเรียนที่มีผลงาน แต่ในประเด็นนี้คงได้รับข้อมูลมาไม่ครบ

ทุจริตกำไลอีเอ็ม

สำหรับการกล่าวหาว่าตนปล่อยปละละเลยให้กรรมการทีโออาร์ และกรรมการจัดซื้อ ทุจริตกันตั้งแต่ต้นน้ำนั้น ขอยืนยันว่า ไม่ใช่ข้อเท็จจริง รัฐมนตรีไม่มีอำนาจในการเซ็นหรือสั่งให้ใครเซ็นผ่านอะไรได้ ตนทำได้เพียงมอบนโยบาย ว่าการเช่ากำไลอีเอ็ม เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัดโปร่งใส และไม่เคยมีการปล่อยปละละเลย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนได้ย้ำแบบย้ำแล้วย้ำอีก ตั้งแต่ ระดับกรม จนถึงกระทรวง ว่าให้ตรวจสอบก่อนทำสัญญาให้ดี เพราะเป็นการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินงบประมาณ แต่สุดท้ายก็ไม่พบความผิดหรือจุดบกพร่องใดดังนั้นทางส่วนราชการจึงเดินหน้าต่อ

ผมยังได้มอบนโยบายในที่ประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมในเวลานั้น ซึ่งมีทั้ง ปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมต่าง ๆ ให้ติดตามเรื่องกำไลอีเอ็มว่า หากการจัดซื้อจัดจ้างผิดระเบียบ ก็ให้ยกเลิกไปได้เลย ทุกอย่างต้องโปร่งใส

นายสมศักดิ์ ยังได้ยกตัวอย่างว่า ที่ผ่านมาเมื่อกำไลอีเอ็ม พบปัญหาถอดออกได้ อย่างเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ก็มีการตั้งกรรมการสอบอย่างรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นว่า ไม่เคยปล่อยปละละเลย

ส่วนกรณีที่กล่าวหาว่า มีการวิ่งเต้นล็อบบี้ให้อนุมัติสัญญาจ้างนั้น ขอย้ำว่า เรื่องนี้ไม่มีการวิ่งเต้น เพราะกรมคุมประพฤติ ได้เข้าชี้แจงกรรมาธิการติดตามงบประมาณ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกรรมาธิการฯ ก็ไม่ได้มีข้อสงสัยเพิ่มเติม หลังจากชี้แจงเสร็จสิ้นแล้ว จึงถือได้ว่า โครงการนี้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปด้วยความปกติ ตามกรอบของกฎหมาย

อีเอ็ม

ส่วนสเปกของกำไลอีเอ็ม ขอยืนยันว่า ไม่ได้ล้าสมัย เพราะได้ผ่านการพิจารณากลั่นกรองของคณะกรรมการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ระดับกระทรวง และกรรมการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ภาครัฐแล้ว รวมถึงได้มีหน่วยงานที่ใช้กำไลอีเอ็มอยู่แล้ว คือ สำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งมีผลการใช้งานเป็นที่ยอมรับ อีกทั้งมีการศึกษาเปรียบเทียบจากต่างประเทศ เช่น อิสราเอล เกาหลี สหรัฐ ด้วย

นายสมศักดิ์ กล่าวย้ำว่า รัฐมนตรี ไม่สามารถล็อกสเปก เพื่อช่วยเหลือใครได้ เพราะว่าสเปกถูกกำหนด โดยกรรมการและนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ และยังต้องประกาศให้สาธารณชนทราบ รวมถึงกฎหมายกำหนดให้สเปกต้องมีบริษัทสามารถเข้าร่วมแข่งขันอย่างน้อย 3 บริษัท จึงไม่สามารถมีการล็อกสเปกตามที่กล่าวหาได้

ขอยืนยันว่า มีการเปิดโอกาสให้มีการปรับแก้สเปกของกำไลอีเอ็มอย่างเต็มที่ เพราะได้มีการประกาศเชิญชวน และเปิดเผยข้อมูลทุกขั้นตอน ผ่านระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ของกรมบัญชีกลาง รวมถึงตัวอุปกรณ์ต้องมีการแข่งขันไม่น้อยกว่า 3 ผลิตภัณฑ์ จึงไม่ใช่เป็นการปิดโอกาสในการแก้สเปกแน่นอน

ส่วนการทำงานของอุปกรณ์ ที่กล่าวอ้างว่าทำงานผิดพลาดหลายครั้งนั้น จริง ๆ แล้วอุปกรณ์มีการดำเนินการปกติ แต่เนื่องจากการทำงานของอุปกรณ์มีการแจ้งเตือนเป็นจำนวนมาก และเครื่องยังต้องส่งสัญญาณเพื่อแจ้งเตือนตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหากมีการตรวจพบการชำรุดเสียหายของอุปกรณ์ เจ้าหน้าที่ ก็จะเร่งแจ้งไปยังบริษัท เพื่อนำเครื่องใหม่มาเปลี่ยนให้ทันที

กรณีที่มีการระบุว่า มีกรรมการรับสารภาพว่าไม่ได้ร่วมประชุมและเซ็นใด ๆ นั้น ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่า ในวันลงมติมีกรรมการ ไม่เข้าร่วมเพียง 2 คน ดังนั้น การประชุมลงมติ จึงไม่ถือว่าขาดองค์ประชุม

ดังนั้น การร้องเรื่องนี้อีกครั้ง ทั้งที่มีการชี้แจงไปหมดแล้ว ก็ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งข้อสังเกตว่า มีอะไรแอบแฝงหรือไม่ เพราะอุปกรณ์ของกระทรวงยุติธรรม ก็คล้ายของศาลฯ แต่มีการพุ่งเป้าร้องเพียงหน่วยงานเดียว และข้อกล่าวหาที่ยื่น กมธ. ก็กล่าวหาแบบเลื่อนลอย ซึ่งเน้นใช้วาทกรรม เพื่อให้ดูน่าสนใจเท่านั้น

ขอยืนยันว่า ดำเนินการเป็นไปตามข้อกฎหมายทั้งหมด โดยจากนี้ ต้องขอใช้สิทธิตามกฎหมาย ซึ่งได้มอบให้ฝ่ายกฎหมาย ดำเนินการต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo