Politics

‘ศรีสุวรรณ’ ร้องสอบ ‘สมศักดิ์’ ตรวจพิรุธโครงการประมูล ‘กำไล EM’

“ศรีสุวรรณ” บุกร้อง กมธ.สภาฯ จี้ตรวจสอบ “สมศักดิ์” เอื้อบริษัทเอกชน ฮั้วประมูลโครงการกำไล EM หรือไม่ พร้อมตั้งข้อสังเกต 7 เรื่อง

นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบโครงการจัดเช่ากำไล EM ของกรมคุมประพฤติ สมัยที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากมีพฤติการณ์ส่อไปในทางเอื้อประโยชน์ล็อกสเปกให้บริษัทเอกชนคนใกล้ชิดนักการเมืองบุรีรัมย์ได้งานไปอย่างเป็นกระบวนการ สรุปได้ 7 ประเด็น คือ

ศรีสุวรรณ

1. มีการปล่อยปละละเลย ให้กรรมการทีโออาร์ และกรรมการจัดซื้อ ทุจริตกันตั้งแต่ต้นน้ำ, กรรมการบางคนรับสารภาพว่าไม่เคยเข้าร่วมประชุมใดๆ เลย และ ไม่เคยเซ็นเอกสารใดๆ แต่อดีตรมว.กระทรวงยุติธรรม กลับปล่อยปะละเลยเพิกเฉย มิได้ สั่งการหรือ ดำเนินการให้มีการตรวจสอบกลับสนใจแต่จะไกล่เกลี่ย ล๊อบบี้ เพื่อสร้างความชอบธรรมในการอนุมัติ หรือ เซ็นสัญญาจ้าง โครงการกำไล EM โดยได้ผู้ชนะการประมูลเป็นรายเดิม

2. มีการปล่อยปละละเลย ให้มีการทุจริตโครงการเช่ากำไล EM ล๊อกสเปก โดยไม่ปรับแก้สเปกแม้มีคนร้องเรียน อ้างแต่สเปกของศาลที่ใช้มา 6-7 ปี ตกยุคล้าหลังไม่ทันสมัย ทำให้ได้อุปกรณ์และระบบงานที่ไม่มีคุณภาพ

3. ไม่มีการปรับแก้ไขสเปก ที่ทันสมัย มีคุณภาพดีกว่า ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ พัฒนาไปไกล เล็กกระทัดรัดทนทาน มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีคุณภาพสูงกว่ากำไล EM ที่ใช้งานอยู่ในเวลานี้ (อ้างแต่สเปกศาล หากินกันทุกกรม ทุกกระทรวง เงินทอนมหาศาลหรือไม่)

สมศักดิ์1
สมศักดิ์ เทพสุทิน

4. มีการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน ทุจริตโครงการเช่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว(กำไล EM) ระยะที่ 1-2 มูลค่ากว่า 1,600 ลบ. โดยบริษัทเอกชน และอดีตรมว. กระทรวงยุติธรรม พยายามไกล่เกลี่ย ล๊อบบี้ผลสอบของระยะที่ 1 ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมธิการติดตามงบประมาณฯ เพื่อเตรียมสร้างความชอบธรรมในการประกาศผู้ชนะกาศประมูลงาน ระยะที่ 2 ให้ได้บริษัทเดิม

5. เมื่อช่วยเหลือ และเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนได้ ก็เร่งประกาศผู้ชนะกาศประมูลงาน ระยะที่ 2 และเตรียมของบกลางอีก 1,200 ล้านบาท สำหรับจัดเช่ากำไล EM ในระยะที่ 3 อีก

6. มีการละเลยให้บริษัทเอกชน และเจ้าหน้าที่ร่วมกันปกปิดข้อมูลความผิดพลาดของ ระบบ Monitor และอุปกรณ์กำไล EM ,โดยให้มีการแก้ไข Log Files หรือบันทึกการใช้งานของผู้ใส่กำไล EM ก่อนนำส่งสรุปผลและบันทึกการใช้งานของผู้ใส่กำไล เพื่อปิดบังปัญหาระบบแจ้งเตือนผิดพลาด ซึ่งในแต่ละวันมีการแจ้งเตือนผิดพลาดหลายร้อยครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเสียเวลา ตรวจสอบและเพิ่มภาระงานให้กับเจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติ

ศรี

7. ยังพบว่ามีการช่วยเหลือให้บริษัทเอกชน เบิกเงินค่าเช่าที่เหลือในระยะที่ 1 จำนวน 241 ล้านบาท (รอบเดือน ม.ค-เม.ษา 2566) ไปให้หมดโดยไม่สั่งการหรือระงับการจ่ายเงินไว้ก่อน โดยได้มีการแถลงต่อหน้าสื่อมวลชน และอดีตผู้นำฝ่ายค้านในสมัยนั้นยังเคยแถลงว่าส่อทุจริตจริง แต่ก็มิได้ดำเนินการใดๆ

ด้วยเหตุดังกล่าว องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงนำความมาร้องคณะกรรมาธิการฯในวันนี้เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อพิรุธทั้ง 7 ข้อว่าเข้าข่ายการเอื้อประโยชน์และปล่อยให้บริษัทเอกชนมาฮั้วประมูลนำกำไลEM มาให้กรมคุมประพฤติใช้โดยไม่มีคุณภาพจริงหรือไม่ เมื่อพบข้อเท็จจริงจะได้ดำเนินการตามครรลองของกฎหมายต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo