พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงโอกาสครบรอบ 4 ปี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า อย่าไปตำหนิการบริหารประเทศของคสช.เพราะตั้งแต่ปี 2475 บ้านเมืองก็เป็นอย่างนี้มาโดยตลอด นั่นคือ เลือกตั้ง ปฏิวัติ ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ วนเวียนไปเรื่อย ๆ นประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญแล้วกว่า 20 ฉบับ อยากให้ทุกคนตระหนักไปศึกษาประวัติศาสตร์ว่า ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ จึงไม่อยากให้โทษใคร การที่ตนพูดแบบนี้ไม่ใช่เพราะมีตำรวจมารับฟังด้วย และตนก็ไม่เคยพูดคุยกับคสช.
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า คสช.ใช้อำนาจ ดูด ส.ส. ร่วมพรรคทหารนั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องธรรมดา จะห้ามคงไม่ได้ แต่ไม่มีใครมาดูดตน ดูดอย่างไรก็ไม่สำเร็จ แต่ยอมรับว่ามีเกือบทุกพรรคมาชวนตนให้เป็นที่ปรึกษาทางการเมืองแต่ไม่ได้ตอบรับ ขออย่าเอาตนไปทำงานการเมืองเลย เพราะสุขภาพไม่แข็งแรง หูก็หนวก ตามองไม่เห็น ความจำเลว จะเอาไปทำไม การที่ออกมาพูดคุยกับสื่ิอวันนี้นั้นก็เพราะห่วงประเทศชาติและประชาชน ที่ผ่านมาก็เคยเสนอเรื่องโซ่ข้อกลางสร้างสันติ ต่อมาเปลี่ยนเป็นกองกำลังที่ 3 หรือ The Third Force แต่กองกำลังนี้จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายใด ไม่ว่าเหลือง แดง ฝ่ายค้าน หรือ รัฐบาล ยุ่งเกี่ยวเฉพาะประชาชนเท่านั้น ทั้งนี้ขอแนะนำรัฐบาลว่าหากอยากประสบความสำเร็จก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อประชาชน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็พยายามทำอยู่ แต่อาจยังไม่ตรงใจ
พล.อ.ชวลิต เปิดเผยว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ได้พูดคุยกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจากการฟังน้ำเสียงก็รู้ว่านายทักษิณอยากกลับบ้าน แม้ไม่ได้พูดออกมาชัดเจน แต่ใจถึงใจ จึงแนะนำว่าหากอยากกลับไทยก็ให้ทำเพื่อประชาชน แต่จะได้กลับหรือไม่ ส่วนตัวไม่สามารถทำนายล่วงหน้าได้ แต่ยืนยันว่าอดีตนายกฯ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และแผ่นดินไทยไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม พล.อ.ชวลิต ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่า ได้พูดคุยกับนายทักษิณบ่อยแค่ไหน และใครเป็นฝ่ายโทรหาก่อน
เมื่อถามถึงการตั้งรัฐบาลแห่งชาติว่าจะสามารถเกิดขึ้นได้หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เชื่อว่าหากมีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะนักการเมืองยังขัดแย้งกัน แล้วเหตุการณ์ก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ที่จะต้องเกิดขึ้น คือ รัฐบาลเฉพาะกาล ที่จะมีหน้าที่แก้ไขปัญหาโดยเฉพาะ และอยู่ไม่กี่เดือน ก็กลับไปสู่การเลือกตั้ง
