Politics

‘เศรษฐา’ ลั่นเป็น ‘นายกรัฐมนตรี’ ไม่มีสิทธิ์เหนื่อย จ่อนอนทำเนียบสัปดาห์ละ 3-4 วัน!

“เศรษฐา” ลั่นเป็น “นายกรัฐมนตรี” ไม่มีสิทธิ์เหนื่อย เพราะมีหน้าที่ต้องทำงาน จ่อนอนทำเนียบสัปดาห์ละ 3-4 วัน เหตุบ้านเล็ก มีทีมรปภ. เกรงใจเพื่อนบ้าน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังเป็นนายกรัฐมนตรี 7 วันที่ผ่านมา ไม่มีสิทธิ์เหนื่อย เพราะมีหน้าที่ต้องทำงาน ตราบใดที่มีภารกิจก็ต้องทำ ตั้งแต่เข้าทำเนียบรัฐบาล นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีประมาณ 10 วินาทีตามที่ซินแสบอกให้นั่งเวลาไหนเท่านั้น แล้วลุกออกมาไม่เคยไปนั่งอีก จะมีระบบการเปลี่ยนแปลงวิธีตั้งโต๊ะทำงานต่าง ๆ ให้เหมาะกับการรับฟังปัญหาจากทุกภาคส่วนมากขึ้น

เศรษฐา

“ถ้าเป็นโต๊ะ เป็นกระจก ประตูกั้น ทางกายภาพไม่เป็นมิตรภาพเท่าไหร่ อยากให้เป็นรัฐบาลที่เข้าถึงได้ และกำลังคิดจะไปใช้บ้านพิษณุโลก ให้คณะที่ปรึกษาไปทำงานกัน และหากใครจะมาเป็นที่ปรึกษาผมแล้วถามว่ามีห้องทำงานหรือไม่ ถ้าเริ่มต้นแบบนี้คงไม่ได้เป็นที่ปรึกษาผม เรามานั่งคุยกันดีกว่า” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นเพียงการแถลงนโยบาย ยืนยันไม่ลืมที่ไปหาเสียงไว้ ไม่ลืมที่ไปพูดไว้ ไทม์ไลน์อาจมีความคลาดเคลื่อน แต่ผมเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง ยังไม่ทราบกระบวนการงบประมาณ กลไล แต่พยายามเรียนรู้ระบบราชการให้เร็วที่สุด เพื่อทำงานร่วมกับภาคราชการต่อไป

ส่วนที่ไปพูดที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) เรื่องการกระจายคอนเน็คชั่น เพื่อให้คนตัวเล็ก นายเศรษฐา กล่าวว่า วปอ.เป็นสถาบันที่สมควรจะมีและต้องมี เป็นสถาบันที่มีการรวมตัวกันระหว่างข้าราชการชั้นกลางและชั้นสูงที่กำลังไต่เต้าไปจนบนสุด ต้องการการประสานงานที่ดีมาก ๆ และเห็นด้วยกับภาคเอกชนหลายคนที่ไปมา ผมถือเป็นเรื่องสำคัญ พวกเราที่นั่งตรงนี้ ทำอะไรไม่เหมาะสมอยู่บ้างหรือไม่ อย่าคิดว่าไม่มีใครเห็น ผมยืนยันวปอ.เป็นสถาบันที่ดีสมควรได้รับการสนับสนุนต่อไป

เศรษฐา

ส่วนก่อนเลือกตั้งมีคำมั่นต่าง ๆ แต่การตั้งรัฐบาลครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปอธิบายเหตุผลได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรามี 141 เสียง เราต้องการ 376 เรารวมกับก้าวไกล แต่ได้ไม่ถึง ถ้าเราไม่จับมือกับคนอื่นจะได้ 376 หรือไม่ จะคอย 9-10 เดือน ประชาชนคอยได้หรือไม่ คอยไม่ได้ ผมไม่ได้ขอความเห็นใจ แต่เป็นคณิตศาสตร์พื้นฐาน

“ความฝัน ความหวัง แรงบันดาลใจ เป็นภารกิจกิจหลักที่ผมแบกไว้ และต้องนำเสนอ ต้องแสดงให้เห็นในสี่ปี ต้องทำให้ประชาชนมีความหวัง ถ้าเขาไม่มีความหวัง อีกสี่ปีก็ไปใช้สิทธิสะท้อนออกมาในคะแนนเสียง ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ประชาชนต้องการ สถานการณ์ที่เราอยู่เป็นความผิดปกติของรัฐธรรมนูญที่ต้องแก้ไข ผมเทหมดหน้าตักแล้ว ถ้าเกิดคำว่าไม่เทหมดหน้าตักแสดงว่ายังมีก๊อกสองในกระเป๋า ผมไม่มีอะไรในกระเป๋า ผมเต็มที่กับทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ สังคม รัฐธรรมนูญ เราพูดทุกเวที อาจยังไม่มีความชัดเจนเรื่องเวลา ถ้าชัดแล้วจะขีดไทม์ไลน์” นายเศรษฐา กล่าว

เศรษฐา

เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรให้เรื่องการซื้อขายตำแหน่งหมดไป นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ใช่ตำรวจอย่างเดียว แต่การให้เกียรติข้าราชการ ไม่ยอมรับการซื้อขายตำแหน่ง เพราะถือว่าเป็นการคอรัปชันที่ร้ายแรงและรัฐบาลนี้ไม่ยอมรับ ตนดูกระทรวงการคลังและได้มอบนโยบายโดยเน้นเรื่องนี้ ไม่ได้หลีกเลี่ยงประเด็นตำรวจ เพราะรู้ว่าข้าราชการตำรวจเสียเวลาอย่างมากเรื่องการวิ่งเต้นโยกย้าย ขออภัย ผบ.ตร.ด้วย แต่เป็นเรื่องจริงที่ต้องพูด จะกำกับในเรื่องนี้

ส่วนที่หลายคนมองว่านายกรัฐมนตรีเป็นคนไหว้สวย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คุณแม่สอนไว้ว่าการไหว้เป็นเรื่องสำคัญ เป็นความประทับใจแรกพบ เป็นการเริ่มต้นที่ดี ถ้าทักทายเหมาะสม เป็นการให้เกียรติให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นใครต้องให้ความเสมอภาคตรงนี้ ส่วนเรื่องที่บอกว่าจะนอนที่ทำเนียบรัฐบาลนั้นเป็นเรื่องจริง เพราะบ้านที่ผมอยู่เล็ก ต้องมีตำรวจไปดูแล เพื่อนบ้านจะเดือดร้อน รวมถึงต้องใช้เวลาเดินทางมาก

“ไม่อยากเป็นภาระกับตำรวจและหน่วยรักษาความปลอดภัย คนที่เป็นภาระคือฝ่ายเลขาฯ ผมทานอาหารเช้า 06.30 น. ก็ต้องมีคนมาสั่งงานได้แล้ว ผมยอมเป็นภาระกับกลุ่มเลขาฯ 4-5 คนเท่านั้น โดยจะไปนอน 3-4 วันต่อสัปดาห์ ถ้ามีภารกิจตอนค่ำ ก่อนนอนก็สั่งงานได้ ยืนยันทำงานเต็มที่ เทหมดหน้าตักจริง ๆ ก็ต้องทำงานหนักจริง ๆ ตอนเจอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ก็เตือนให้ผมระวังว่าคนจะหาว่าสร้างภาพ ผมเข้าใจในความหวังดีเพราะโดนแน่นอน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK