ครม.เห็นชอบขยายเวลาโครงการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ไปสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2567 ไฟเขียวเปลี่ยนแปลง 9 โครงการเศรษฐกิจฐานราก 7 จังหวัด พร้อมรับทราบการเบิกจ่ายเงินกู้ พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 29 สิงหาคม 2566 ได้เห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ (คกง.) ภายใต้พระราชกำหนด(พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ.2564)
ทั้งนี้ อนุมัติให้ กรมควบคุมโรค ขยายระยะเวลาการสิ้นสุดโครงการจัดหาวัคซีนโควิด-19 สำหรับประชากรในประเทศไทยจำนวน 60 ล้านโดส (AstraZeneca) ปี 2565 และโครงการจัดหาวัคซีนโควิด19 สำหรับประชากรในประเทศไทยจำนวน 30 ล้านโดส (Pfizer) ปี 2565 ไปสิ้นสุดโครงการในเดือนมีนาคม 2567 จากเดิมที่สิ้นสุดโครงการ กันยายน 2566
การขยายระยะเวลาดังกล่าว เนื่องจากกรณีของการจัดหาวัคซีน AstraZeneca นั้นอยู่ระหว่างรอหนังสือแจ้งยืนยันผลการเจรจาในการขอเปลี่ยนแปลงรายการวัคซีนที่ยังไม่ส่งมอบจำนวน 19.07 ล้านโดสเป็น LAAB
ส่วนโครงการจัดหาวัคซีน Pfizer นั้นส่งมอบครบแล้ว แต่อยู่ระหว่างการบริหารจัดการวัคซีนส่วนที่เหลือ เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงานบริหารจัดการวัคซีน Pfizer (Maroon Cap) ในพื้นที่
พร้อมกันนี้ ได้อนุมัติให้เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากใน 7 จังหวัด รวม 9 โครงการ วงเงินรวม 74.136 ล้านบาท ประกอบด้วย
1. ยกเลิกดำเนินโครงการใน 2 จังหวัดได้แก่มหาสารคาม และนครราชสีมา รวม 3 โครงการ กรอบวงเงิน 2.137 ล้านบาท เนื่องจากไม่สามารถจัดหาผู้รับจ้างและลงนามผูกพันทันภายในปี 2565
2. ขยายระยะเวลาสิ้นสุดโครงการเป็นสิ้นสุดกันยายน 2566 ในจังหวัดนครศรีธรรมราช รวม 2 โครงการ วงเงินรวม 16.453 ล้านบาท เนื่องจากดำเนินการแล้วเสร็จอยู่ระหว่างเบิกจ่ายเงินตามขั้นตอน
3. ขยายระยะเวลาสิ้นสุดโครงการเป็น ธันวาคม 2566 ใน 3 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด นครสวรรค์ และนราธิวาส รวม 3 โครงการ วงเงินรวม 52.865 ล้านบาท เนื่องจากลงนามผูกพันสัญญาแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินโครงการ
4. เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ และขยายระยะเวลาสิ้นสุดเป็น กันยายน 2566 ในจังหวัดสมุทรสาคร 1 โครงการ วงเงิน 2.68 ล้านบาท
ที่ประชุม ครม. ได้กำชับให้จังหวัดที่ได้รับการอนุมัติให้ปรับปรุงรายละเอียดโครงการ และขยายระยะเวลาสิ้นสุดโครงการ ให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลาที่ได้รับอนุมัติจาก ครม. โดยโครงการได้ที่ดำเนินการแล้วเสร็จ ก็ดำเนินการเร่งคืนเงินกู้เหลือจ่ายตามระเบียบต่อไป

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ครม. ได้รับทราบภาพรวมผลการดำเนินงานและเบิกจ่ายเงินกู้ของแผนงานหรือโครงการภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ราย 3 เดือนครั้งที่ 8 (พ.ค.-ก.ค. 2566) ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2566 มีดังนี้
1. โครงการของส่วนราชการ จำนวน 85 โครงการ กรอบวงเงินอนุมัติ 494,760.93 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแล้วเสร็จ 79 โครงการ วงเงินอนุมัติ 455,233.34 ล้านบาท มีผลการเบิกจ่าย 438,671.87 ล้านบาท คิดเป็น 96.36% โครงการอยู่ระหว่างดำเนินการ 6 โครงการ กรอบวงเงินอนุมัติ 39,527.59 ล้านบาท มีผลการเบิกจ่าย 30,662.90 ล้านบาท คิดเป็น 77.57%
2. โครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็ง จำนวน 2,285 โครงการ กรอบวงเงิน 4,762.87 ล้านบาท มีความก้าวหน้าแบ่งเป็น 4 สถานะ ได้แก่
- โครงการแล้วเสร็จ 2,224 โครงการ วงเงินอนุมัติรวม 4,526.06 ล้านบาท
- โครงการอยู่ระหว่างดำเนินการ 27 โครงการ วงเงินอนุมัติรวม 97.30 ล้านบาท
- โครงการที่สิ้นสุดระยะเวลาโดยไม่มีการเบิกจ่าย 28 โครงการ วงเงินอนุมัติรวม 67.51 ล้านบาท
- โครงการที่ขอขยายระยะเวลา 6 โครงการ วงเงินอนุมัติรวม 72 ล้านบาท
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ดร.อนันต์’ ตอบคำถามคาใจ ฉีดวัคซีนโควิดครั้งต่อไปตอนไหน ติดแล้วควรฉีดอีกครั้งเมื่อไหร่
- สธ. ย้ำวัคซีนโควิด ปลอดภัยสูง ลดป่วยหนัก-เสียชีวิต ป้องกันลองโควิด
- โค้งสุดท้าย!! ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี 7 กลุ่มเสี่ยง ทุกสิทธิการรักษา