ทำความรู้จัก! “เศรษฐา ทวีสิน” จากเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์หมื่นล้าน! สู่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย เกิดเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2505 มีชื่อเล่น “นิด” ปัจจุบันอายุ 61 ปี นายเศรษฐาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับเสนอชื่อเป็น “นายกรัฐมนตรี” ของพรรคเพื่อไทย และเป็นอดีตประธานอำนวยการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ siri บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศไทย
“เศรษฐา ทวีสิน” เป็นบุตรคนเดียวของ ร.อ.อำนวย ทวีสิน กับ ชดช้อย ทวีสิน (สกุลเดิม จูตระกูล) นายเศรษฐา จบการศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร จากนั้นศึกษาต่อที่สหรัฐในระดับไฮสกูลและจบการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแมสสาชูเซ็ตส์ (University of Massachusetts) ปริญญาโทในสาขาบริหารธุรกิจด้านการเงินจาก บัณฑิตวิทยาลัยแคลมอนต์ (Claremont Graduate School) ของสหรัฐ
ในปี 2532 นายเศรษฐาสมรสกับ พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญความงามด้านผิวพรรณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีบุตรธิดา 3 คน ได้แก่
- นายณภัทร ทวีสิน (น้อบ) : จบด้านปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ (Philosophy-Politics-Economics หรือ PPE) University of Oxford และปริญญาโทบริหารธุรกิจ (MBA) Harvard Business school
- นายวรัตม์ ทวีสิน (แน้บ) : จบปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ (Economics) และปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์ (Public Administration) จาก Stanford University
- นางสาวชนัญดา ทวีสิน (นุ้บ) : จบปริญญาตรีด้านประสาทวิทยาศาสตร์ (Neuroscience) ที่ Barnard college Columbia University นิวยอร์ก และปริญญาโท สังคมสงเคราะห์ (Social work) ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน
หลังจบการศึกษาระดับปริญญาโทในปี 2529 นายเศรษฐา เข้าทำงานที่พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เป็นเวลา 4 ปี ต่อมาได้ย้ายไปทำงานที่ บจก. แสนสำราญ ของอภิชาติ จูตระกูล ลูกพี่ลูกน้องของเขา ซึ่งหลังจากนั้นได้เปลี่ยนชื่อเป็น บมจ. แสนสิริ และนายเศรษฐาได้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทดังกล่าว
ช่วงต้นเดือนเมษายน 2566 นายเศรษฐาได้ประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งของแสนสิริ พร้อมโอนหุ้นทั้งหมดของ บมจ.แสนสิริ (SIRI) จำนวนกว่า 661,002,734 หุ้น ให้แก่ นางสาวชนัญดา ทวีสิน ผู้เป็นบุตรสาว โดยเสน่หาไม่มีค่าตอบแทน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจเตรียมพร้อมทำงานการเมืองในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย
เศรษฐา ทวีสิน เข้าร่วมงานทางการเมืองในนามพรรคเพื่อไทยอย่างเต็มรูปแบบในเดือนมีนาคม 2566 โดยการเชิญของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐาให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นเป้าหมายหลัก เน้นย้ำเรื่องปากท้องของประชาชน ความเหลื่อมล้ำของสังคม และการให้ความสำคัญกับความเสมอภาค ความเท่าเทียม สิทธิเสรีภาพในการเลือก
อย่างไรก็ตาม ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยได้เป็นพรรคอันดับสองรองจากพรรคก้าวไกล สิทธิในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจึงอยู่กับพรรคก้าวไกล อย่างไรก็ตาม ในการโหวตนายกรัฐมนตรีที่เป็นแคนดิเดตจากพรรคก้าวไกล คือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2556 ได้คะแนนเสียง 324 เสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรค ขาดอีก 52 เสียง ซึ่งไม่เป็นผลสำเร็จ และไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว. อย่างเพียงพอ พรรคก้าวไกลจึงมอบสิทธิ์ให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทน
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย จึงมีมติเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และได้รับเสียงโหวตจากรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ด่วน!! ‘เศรษฐา’ ฉลุย!! ที่ประชุมรัฐสภาโหวตนั่ง ‘นายกรัฐมนตรี’ คนที่ 30 สว.โหวตพรึ่บ!
- ‘นพ.ชลน่าน’ ลุกขึ้นเสนอชื่อ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ เป็นนายกรัฐมนตรี ไร้คู่แข่ง
- คำต่อคำ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ แถลงโต้ ‘ชูวิทย์’ ลั่นผมไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่มีสิทธิมาข่มขู่ผม