Politics

‘วิโรจน์’ มอง ‘เพื่อไทย’ ยังเป็นเพื่อน พร้อมกลับมาร่วมงาน

“วิโรจน์” มอง “เพื่อไทย” ยังเป็นเพื่อน พร้อมกลับมาร่วมงาน ให้กำลังใจ “เศรษฐา” หลังถูกตั้งข้อกังขาคุณสมบัตินายกฯ

เมื่อเวลา 13.20 .วันที่ 7 สิงหาคม 2566 ที่พรรคก้าวไกล (..) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีทวีตข้อความในทวิตเตอร์ว่าเดินกลับแค่เสียหน้า แต่เดินหน้าจะเสียทุกสิ่งว่า เป็นความรู้สึกที่สะท้อนออกมาจากประชาชน และเราก็สะท้อนกลับไปเท่านั้น

วิโรจน์

เมื่อถามว่า ต้องการที่จะให้พรรคเพื่อไทย (พท.) กลับมาจับมือกับพรรค ก.. ใช่หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ไม่ใช่กลับมาจับมือกับพรรค ก.. แต่กลับมาอยู่กับฝ่ายประชาชนมากกว่า ฝ่ายที่เราต้องอยู่คือฝ่ายเดียวกันกับประชาชน ส่วนที่ส.. พรรค ก.. หลายคนออกมาพูดทำนองเดียวกันกับตนว่าให้จับมือกันอีกครั้ง เรียกว่าเป็นทางออกที่เราจะสามารถปกป้องเสียงของประชาชนได้ เป็นโอกาสเดียวที่เราจะฟื้นฟูอุดมการณ์ของประชาธิปไตย ซึ่งเรายืนยันว่าอำนาจอธิปไตยสูงสุดเป็นของประชาชน อย่าคิดว่าใครมาจับมือกับใคร ตนคิดว่าถึงเวลาที่เราต้องเคารพเสียงของประชาชน และปกป้องเสียงของประชาชนที่ไปเลือกตั้ง ทั้งนี้ยังเป็นความเห็นส่วนบุคคล ยังไม่มีการพูดคุยภายในพรรค

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ประวัติศาสตร์ทางการเมืองทุกคนทราบดี ว่าฝ่ายอำนาจนิยมหรือฝ่ายอนุรักษ์นิยมเจ้าเล่ห์และโหดเหี้ยม แต่จุดแข็งคือเขารวมตัวกันเหนียวแน่น และใช้ยุทธวิธีเดิมๆ คือแบ่งแยกและปกครอง สำหรับฝ่ายประชาธิปไตยต้องลืมความรู้สึกในลักษณะปัจเจกบ้าง นี่เป็นเรื่องขององค์กรรัฐธรรมนูญที่อาจจะมีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง ถ้าเรามีอุดมการณ์ที่ใกล้เคียงกันก็ต้องใจกว้าง ไม่คิดเล็กคิดน้อย มองผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ แตกเมื่อไหร่จบเลย

เมื่อถามว่า มองว่าในขณะนี้พรรค พท. ยังพอมีเวลาที่จะกลับมาจับมือกับพรรค ก.. นายวิโรจน์กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของพรรค พท. มีจะเดินหน้าและถอยหลัง เราเพียงแต่มองจากภายนอกและประวัติศาสตร์การเมือง ว่าฝ่ายประชาธิปไตยถูกกระทำและถูกหลอกจากฝ่ายอำนาจเก่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า และฝ่ายอำนาจเก่าไม่เคยแตกแถว แม้จะแยกกันตีแต่สุดท้ายก็กลับมารวมกัน

เมื่อถามว่า ตอนนี้นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท. ก็ถูกตั้งข้อกังขาแบบเดียวกับที่พรรค ก.. โดน นายวิโรจน์กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ และขอให้กำลังใจนายเศรษฐา สิ่งต่างๆ เหล่านี้เราก็เคยคาดการณ์มาก่อน

เหมือนกรณีที่พรรค ก.. โดนในเรื่องม.112 ว่าเป็นแค่ข้ออ้าง พอเห็นท่าทีที่ยืดหยุ่นก็บอกว่าอะไรก็ตามที่เป็น ก.. ก็ไม่เอาเลย คราวนี้ก็เช่นเดียวกัน แรกๆ บอกว่าไม่มีปัญหา หลังๆ ก็ค่อยๆ งอกปัญหาออกมาเรื่อย เมื่อเห็นแล้วว่าฝ่ายนั้นอำมหิตขนาดไหน เราจึงบอกว่าอย่าไปยอมให้มันหลอกเลยนายวิโรจน์กล่าว

เมื่อถามว่า หากเปลี่ยนเป็นน..แพทองธาร ชินวัตร และนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. นายวิโรจน์กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของพรรค พท. แต่เชื่อเถอะว่าต่อให้เปลี่ยนเป็นใคร อีกฝ่ายก็หาเรื่องอยู่ดี เหมือนของที่ไม่ซื้ออยู่แล้ว จะเปลี่ยนเป็นชิ้นไหนก็ติอีก สุดท้ายคือใจไม่เอาอยู่แล้ว เขาเตรียมๆ ของเขาไว้ในกระเป๋าอยู่แล้ว อย่าให้เขาหลอกดีที่สุด ตนพูดด้วยความหวังดี

เมื่อถามว่า อีกฝั่งกำลังพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้คนจากฝั่งตัวเองขึ้นมาเป็นนายกฯ นายวิโรจน์กล่าวว่า แน่นอน เมื่อถามว่า จะมีเงื่อนไขอะไรหรือไม่หากพรรค พท. กลับมา นายวิโรจน์กล่าวว่า คงต้องมาคุยกัน ว่าเราจะกลับมาร่วมมือสู้ต่ออย่างไร ว่าทำไมฝั่ง 312 เสียงถึงดูยากเย็น เพราะไม่ได้สู้แค่กับฝั่ง 188 เสียง แต่สู้กับ 424 เสียง คือส..รวมกับขั้วอำนาจเดิม เชื่อจริงๆ หรือว่าส..แต่ละคนเป็นอิสระ ต้องมีคนกดปุ่ม ดังนั้นคุณต้องไปคุยกับเจ้าของปุ่ม แล้วคุณเชื่อว่าเจ้าของปุ่มจะยอมกดปุ่มให้ฟรีๆ โดยที่เขาไม่ได้ร่วมรัฐบาลหรือ เรียกว่าโลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ตอนนั้นเรามี 312 เสียง งัดกับ 424 เสียงยังเหนื่อย ตอนนี้เหลือแค่ 141 เสียง เจอแค่ 188 เสียงยังหนาวแล้ว ตอนนั้นฝั่ง 188 เสียงไม่กล้าส่งเสียง เพราะเรามี 312 เสียง เขาจึงเรียกแบคหลังม่านขึ้นมาเติม ตอนนี้เขาไม่ส่งเสียงเพราะเจอแค่ 188 เสียงก็ตายแล้ว

เมื่อถามว่า หากกลับมาจะยังร่วมงานกันได้หรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า การทำงานได้กับความรู้สึกที่ไม่สบายใจคนละเรื่องกัน เรายังทำงานกันได้ ส่วนความไม่สบายใจจะลดไปตามกาลเวลา ถ้าอุดมการณ์ยังใกล้เคียงกันก็ทำงานได้ กับ พท. เรายังมองว่าเป็นเพื่อนเรา

ตนไม่ได้คิดไปฝ่ายเดียว ถ้าคิดในแง่ดีเราอย่าเอาวาทกรรมมาสาดใส่กัน หากจะกลับมาผนึกกำลังกันสู้ประชาชนก็ยินดี แต่อาจะต้องชี้แจงต่อสาธารณะให้ชัดเจน หากรักๆ เลิกๆ ประชาชนก็อาจจะรำคาญได้ แต่ถ้ากลับมารวมกันเพราะอะไร ประชาชนก็พร้อมที่จะให้พวกเราเดินหน้านายวิโรจน์กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo